วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการไปดูหนังรอบสื่อครั้งแรกกับ Girls Don't Cry เรื่องราวของคนธรรมดาที่เป็นไอดอล

เอามาจาก presskit https://girlsdontcrythemovie.com/assets/PRESSKIT-TH.pdf

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2561 ได้ไปดู Girls Don't Cry รอบสื่อ บังเอิญดวงดีได้โควต้าของออฟฟิคมา (คือออฟฟิคได้บัตรรอบสื่อมาอีกที) เลยได้ไปดู 5555 จริงๆเราเองเป็นแฟนคลับพี่เต๋อ นวพลอยู่แล้ว แต่ไม่เคยดูหนังเขาในโรงภาพยนตร์สักครั้งเลย วืดตลอด ด้วยเรื่องนี้เป็นสารคดีของ BNK48 ซึ่งเราเองก็มีคามิโอชิเป็นเฌอปราง และโอชิน้องเจน เรียกง่ายๆว่าโอตะนั่นเอง ก็อยากดูเลย ไม่ได้คิดอะไรมาก



มาถึงอย่างเร่งรีบกับสายฝนเราเองก็หาบูธรับบัตร โชคดีที่มีน้องคนนึงส่ง message มาบอกให้รับบัตรก่อนทุ่มครึ่ง เลยถามบูธรับบัตรอยู่ตรงไหน และคนเยอะมากๆ ทั้งสื่อและโอตะ เกือบหาไม่เจอซะแล้ว ได้ตั๋วหนังกับทิชชู่ที่แจกมา ดีแล้วไม่ต้องหามาเอง 555



จากนั้นมาดูรุ่นสองแสดงบนเวที คนเยอะมาก หาทางไม่ค่อยเจอ เดินมาผิดโซนการ์ดก็เตือน จนได้ที่ที่ไม่น่ารบกวนใครแล้ว แต่เห็นค่อนเวทีเอง โชว์ไป 3 เพลง คือ ฤดูใหม่ คุกกี้เสี่ยงทาย และ bnk48 เพิ่งเคยเห็นน้องๆบนเวทีครั้งแรกเลย เสียงเชียร์โอตะกระหึ่มมาก ดูแล้วสนุกดีนะ รุ่นสองเราก็มีโอชิบ้าง เป็นฝ้าย และแพนด้า ที่ติดเซมเพลงนี้ ดีเหลือเกินที่ได้เห็นน้องแสดง แต่ที่สะดุดตามและเต้นตามในใจคือ
น้องวีรยา เต้นแข็งแรงและใส่เต็มมาก คือมันดีย์มากเลย

มีคนบังเฉ้ยยยตอนจะถ่ายน้องวีจากช่องนี้

เมื่อรุ่นสองแสดงจบก็ไปที่โรงหนัง ต้องขึ้นบันไดเลื่อนไป แต่เขากั้นแหะ รอใครน๊า อ๋อออ รุ่นหนึ่งนั่นเอง คนแรกคือเมษา ไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้ น้องจิ๊บก็สวย สองป๋องเห็นแว่บๆผมยาวขึ้นด้วย รินะก็สวย มี่ก็สวยโอตะบอกห้าบาทรู้เรื่องเลย ชราไลน์ก็ดีงาม ที่จำได้ก็อรกับนํ้าหนึ่ง (หมายถึงว่าวันนั้นเจอใครแล้วมองหน้าใครแบบจริงๆอ่ะ อาจจะมีหลุดไปบ้าง) ทำท่าเหมือนตอนถ่าย backdrop ที่บันไดเลื่อน อรโบกไม้โบกมือให้ทุกคนด้วย แล้วก็เห็นน้องเจนในระยะไกล น้องสวยมากจริงๆ คุณไข่ยืนมาถ่ายรูปตรงหน้าเลย น้องน่ารักมากอ่ะ แต่เนื่องจากมีโอตะอยู่ข้างหน้า เลยถ่ายไม่ทันด้วย แบบแค่เห็นก็ดีแล้ว มิวสิคก็สวยน่ารักดีงาม โมก็สวยน่ารัก แต่ไม่เจอเฌอปรางเลย น่าจะให้สื่อสัมภาษณ์อยู่ มันเหมือนความฝันมากเลยอ่ะ ไม่คิดว่าจะได้เจอ งุ้ยยย



พอโรงเคลียร์ของเสร็จก็เปิดให้ไปนั่ง คนทยอยมากัน ที่นั่งที่เราได้นั้นค่อนข้างหน้าอยู่ แต่อยู่เกือบกลางพอดีเลย เอ๊ะเราจะไหวไหมนะ พอได้เวลาม่านเปิดก็หยิบมือถือที่ปิดเสี่ยงปิดสั่นใส่กระเป๋า และดูการทดสอบระบบเสียง โฆษณา และเทลเลอร์หนังพี่ตูน (นี่ก็นึกว่ารอบสื่อจะเจอหนังฉายไปเลยซะอีก 555)



รีวิวหนังหล่ะนะ
เป็นเรื่องราวของเด็กวัยรุ่น 26 คน ต่างที่มา ว่าแต่ละคนเจอเหตุการณ์อะไรมาบ้าง สำหรับคนที่ไม่ได้อินหรือไม่รู้จัก bnk48 เลย ในหนังอธิบายเรื่องระบบของวงเอาไว้ด้วยในช่วงแรก คำศัพท์ต่างๆก็เซมบัสสึ เซ็นเตอร์ แกรด เก็ทแน่นอนว่าเมมพูดถึงอันนี้ มันคืออะไร เหตุการณ์ต่างๆตั้งแต่ก่อนออดิชั่นจนตอนสัมภาษณ์ เจออะไรมาบ้าง

เราเองสรุปลงทวิตไว้บ้างแล้วกันลืม ฮ่าๆ

- หนังเล่าเรื่องได้ดี และเข้าใจง่ายนะ 
- ชอบเพลง score ในเรื่องนะ มันลงตัวไปหมด 
- ชอบความ real ของปูเป้มากอ่ะ มีคนพูดว่า mvp ของเรื่องนี้เลย 555
- คุณไข่ก็ใช่ย่อย ฮ่าๆ ไม่ใช่คนตลกแต่ตลกเฉ้ยยย งงม่ะ 555
- สถานการณ์บางอย่างที่น้องๆเจอเหมือนผู้ใหญ่เจอเลยนะ แต่เจอเร็วกว่าคนไวเดียวกัน ยอมรับว่าน้องๆเขาแกร่งมากจริงๆ
- ได้ข้อคิดดีๆหลายประเด็น ยิ่งที่เฌอปรางพูดนี่เด็ดทุกคำเลยนะ และหลายๆคนด้วย เป็นคำพูดที่เราสามารถเอาไปปรับใช้ได้แหละ
- เข้าใจฝั่งเฌอกับน้องๆอันเดอร์นะ แต่ละคนเจอเหตุการณ์ที่ต่างกัน และอาจจะเกิดความไม่เข้าใจกันบ้าง เป็นเพื่อนกัน แต่ต้องมาแข่งขันกันเอง ซึ่งไม่ต่างจากชีวิตคนทำงานปกติเท่าไหร่ 
- จริงๆเราว่าผู้ใหญ่ที่โตระดับหัวหน้างานน่าจะเจอสถานการณ์เดียวกับเฌอปราง และคงจะทำคล้ายๆกันนะเราว่า ส่วนน้องๆก็นำไปประยุกต์ใช้ได้
- ร้องไห้ตามโอชิเลย ร้องไห้ตามเฌอปรางและน้องเจน แต่แบบคลอๆนะ
- ซีนฮาก็จังหวะซิตคอมมาก ซีนร้องไห้นี่เศร้าจริงๆ 
- แหล่งพลังงานของน้องๆคืองานจับมือ ไปจับมือน้องๆกันเยอะๆนะ
- แล้วก็ชอบตอนจบ end credit ด้วย เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้ทุกวินาทีมีค่ามาก คนดูดูคุ้มทุกหยดเลยแหละ
- น้องทุกคนโตขึ้นมากจริงๆ ไม่ใช่ทางกายภาพ (รูปร่าง หน้าตา บุคลิก) แต่เป็นความคิดและวุฒิภาวะที่โตขึ้นด้วย :)

ส่วนกล่องทิชชู่นั้น จะแกะหลายรอบแล้ว มีซีนที่ทำให้เราร้องไห้ตามนะ แต่แค่ร้องคลอๆ ในโรงมีคนแกะมาซับนํ้าตาด้วย

ตอนหนังจบมีคนปรบมือด้วยแหละ แล้วได้ยินมีคนนึงบอกว่า นี่มันหนังของ......ชัดๆ

เท่าที่คิดทั้งคืนจนตอนนี้แอบหักคะแนนนิดหน่อย บางประเด็นดันไม่ได้เล่นเฉ้ยยย แต่ไม่ถึงหนึ่งคะแนนแหละ

ถ้าสมมุติสร้างภาพแยกยังกะจักรวาลมาร์เวลนั้น ส่วนตัวอยากให้ทำภาคแยกของรินะซังนะ

ปล. ตอนเราทวิตเขาคงคิดว่าเราไม่ใช่โอตะหรือเปล่า 555 แต่ก็ขอบคุณมากนะ



และเดี๋ยวเราจะลองอีก version ที่เปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์ ซึ่งต้องรออีกสักพักแบบคนดูดูไปหมดแล้วงี้ เพราะแต่ละซีนมันเด็ดจริงๆ และเราเองจะได้จำได้ด้วยว่าประเด็นนี้ ถ้าเทียบกับการทำงานแล้วเป็นอย่างไร

ป้ายกำกับ:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก