วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

บันทึกการร่วมกิจกรรม workshop ของงาน i, MedBot 2014 วันที่ 31 พฤษภาคม 2557(ภาคบ่าย)

จากตอนที่แล้ว ขอเล่าย้อนสักนิดแล้วกันเนอะ ว่าทำไมถึงได้มาร่วม workshop ในครั้งนี้
…เพราะเราไปเจอในกรุ๊ปเฟสคณะ พอเอามาอ่านดูก็รู้สึกว่าอยากลอง 
เลยชวนเพื่อนๆมาสมัคร workshop ด้วย
สมัครสมาชิกในเว็บ TCELS และลงทะเบียน workshop ทั้งเช้าและบ่ายในเว็บ
จึงได้มาในวันนี้…

ในตอนเที่ยง ลงจากลิฟท์มาที่ศูนย์อาหารชั้นใต้ดินของตึก ตามหาที่นั่งที่พี่ๆสตาฟกันไว้ให้ เดินไปทั่วพื้นที่แล้วไม่พบเลย แงๆ วันนี้จะกินข้าวที่ไหนดี โชคดีที่เจอโต๊ะว่าง เลยได้ที่กินข้าว อาหารที่นี้ราคาเริ่มต้นค่อนข้างแพงนะ ราคาต่อจาน 50 บาท แต่ได้บัตรศูนย์อาหารจากที่งาน เท่ากับว่ามื้อนี้เรากินฟรี แถมมีเงินกินขนมเพิ่มอีก 100 บาท เย้

เมื่อกินข้าวกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็กดลิฟท์ไปชั้น 14 เพื่อไปร่วม workshop ในช่วงบ่าย โดยห้องที่ใช้กิจกรรมในช่วงบ่ายจะเป็นคนละห้องกับช่วงเช้า มีโต๊ะ มีเก้าอี้ที่พับเป็นกระดานได้ มีกลุ่ม workshop 8 กลุ่มด้วยกัน กลุ่มละ 5 คน ตามจำนวนเก้าอี้ โดยกลุ่มที่ได้ จะเรียงตามการลงทะเบียนออนไลน์ โดยเราได่กลุ่มที่ 1 และเพื่อนเราได้กลุ่มที่ 2 และ 3 ตามลำดับ แต่ละคนเริ่มทยอยมากัน สุดท้ายแตละกลุ่มจะมีสมาชิกมากสุด 5 คน รองลงมาคือ 4 คน มีกลุ่มที่มี 3 คนและ 2  คน มายุบรวมเป็นกลุ่มเดียวกัน บนโต๊ะมีกระดาษในกิจกรรมวางไว้กลางโต๊ะ พร้อม post-it และ marker สีนํ้าเงิน 3 แท่ง สีแดงแท่งใหญ่อีกแท่ง และขนมซ็อคโกแลต M&M ลูกอมเมนทอส และลูกอมรสคาราเมล วางไว้สองฝั่งโต๊ะ

Idea workshop โดย Ernest To, Strategic Consultant, Business Creative และ Jeff Hamilton, Founder, Creo Modo เวลา 13:30-16:30 เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการในช่วงบ่ายนี้ 



เริ่มต้นที่การแนะนำตัวของวิทยากรทั้งสองท่าน จากนั้นเปิด vdo เกี่ยวกับหนังเรื่องหนึ่ง กำลังพาคนเจ็บไปรักษา ทางวิทยากรบอกว่า ให้มี group leader และ group officer โดย group leader เป็นคนเล่าเรื่องต่อจากใน vdo จากนั้น group officer เล่าต่อ และชี้ให้คนต่อไปเล่าต่อไปเรื่อยๆ โดยคิดเรื่องขึ้นมาเอง จากนั้นทุกคนในกลุ่มก็แนะนำตัว ทำความรู้จักกับพี่ๆในกลุ่ม และทำกิจกรรมแรกร่วมกัน พอได้ข้อสรุปในกลุ่มแล้วทางวิทยากรก็แอบมาถาม จากนั้น เขาก็ถามว่าสามารถเป็นอะไรได้บ้าง และไปยังสไลด์หน้าต่อไป ถามว่ารูปนี้สื่อถึงอะไร 

Key note : robotics technology + automative technology = new innovation
เช่น kinect จับคู่กับการสื่อสารของแพทย์ รวมกันคือการสื่อสารของแพทย์ไปยังห้องผ่าตัด เป็นต้น



กิจกรรม workshop ในช่วงแรก ในห้องจะมีรูปแปะไว้ในห้อง ว่าแต่ละคนต้องการอะไร เช่น คนดื่มหนักแล้วปวดหัวอยากดื่มแล้วไม่ปวดหัว หญิงสาวอยากทำขนมเก่ง นักร้องเกาหลีอยากหน้าตาดี เป็นต้น สามารถนำไอเดียอย่างอื่นมาใส่ได้ โดยมีกระดาษที่แจกไว้บนโต๊ะ เขียนว่าเราเห็นอะไร และเราเข้าใจอะไร ให้เวลาคิดและระดมไอเดีย 15 นาที จากนั้นนำมาเรียงบนโต๊ะ 

กิจกรรม workshop ในช่วงที่สอง วิทยากรจะอธิบายไอเดียตัวอย่างว่ามีประโยขน์อะไรบ้าง วงว่า ตรงกับข้อไหนบ้าง โดย
- แถวบนสุด เป็นระดับในการรักษาหรือการแก้ปัญหา มี concern เป็นห่วงกังวล, prevent ป้องกัน, treat & heal รักษา, get better (recover) ทำให้ดีขึ้น, enhance ใส่เข้าไปเพิ่มขึ้น
- แถวด้านขวา บอกถึงช่วงอายุ มี birth, child, teen ,adult, family, old, dead
- แถวด้านล่าง บอกถึงความใหญ่ของหน่วยการรักษา มี family & friends, patient, caregiver, medical staff, medical professional, medical industries
- แถวด้านซ้าย บอกถีงกิจกรรมที่ทำ มี online, travel, work, play, home, hospital
จากนั้นวิทยากรให้พวกเราแต่ละกลุ่มนำไอเดียที่เขียนไว้ มาแปะประโยชน์หรือข้อดีของไอเดียนั้นๆ ด้วย post-it ในเวลา 15 นาทีเช่นกัน ซึ่งคุณ Ernest To ได้บอกว่าขนมบนโต๊ะเป็น creative food อยากให้พวกเรากินขนมในการคิดไอเดียใหม่ๆ ฮ่า พอจบช่วงที่สอง ก็ได้เวลาพักเบรก กินขนมจากแอแครและลูกชุบจาก UFM (ลูกชุบมันหวานมากๆไม่อร่อยเลยง่ะ) และเครื่องดื่มชากาแฟโอวันตินเหมียนเดิม



กิจกรรม workshop ช่วงที่สาม คิดไอเดียเพิ่มเติมจากในไอเดียในช่วงที่หนึ่ง ยากเลย พี่ๆในกลุ่มนั่งนิ่ง กลุ่มอื่นๆก็นิ่ง คุณ Jeff Hamilton ก็มาชวนคุย และถามว่าพวกเราทำอาชีพอะไรได้บ้าง เขาสรุปได้ว่าคุณเป็น engineer พี่อีกคนเป็น computer science และมารวมกับพี่อีกคนที่เป็น graphic เอามารวมกันน่าจะได้อะไรใหม่ๆเยอะ ประมาณนี้ ช่วงนั้นเราค่อนข้างมึน อึน มากเลย 

กิจกรรม workshop ช่วงที่สี่ อันเป็นช่วงสุดท้าย การสรุปทั้งหมดว่าเราสร้างนวัตกรรมเพื่ออะไรบ้าง แกน x บอกถึงกลุ่มคนที่จะได้รับประโยชน์ ด้านซ้ายเป็น individual benefit ประโยชน์ในการบวนการผลิตในอุตสาหรรม ด้านขวาเป็น social and commutation benefit ประโยชน์เพื่อสังคม แกน y เป็นการนำไปใช้ประโยชน์ ด้านบนเป็น enhancing (better) ทำให้ดีขึ้น ด้านล่างเป็น enabling (happen) นำสิ่งที่เกิดขึ้นมาทำ เมื่อที่พื้นได้ขีดเส้นแกน x แกน y แล้ว ให้แต่ละกลุ่มนำไอเดียมาวางในแต่ละ ส่วน ว่าตรงกับแกน x อันไหน แกน y อันไหน พบว่าค่อนไปทางซ้ายมือ คุณ Ernest To ถามว่า ไอเดียที่ตกลงจตุภาคไหนโอเคทั้งสุด เราคิดว่าจตุภาคที่หนึ่ง บ้างก็มีจตุภาคที่สอง สรุปคือ อันไหนก็ได้คะ ในสองคำตอบ (ถ้าจำไม่ผิดนะ) เพราะต้องเกิดประโยชน์ต่อสังคม ทางวิทยากรสนุกมากจนไม่อยากเลิกงานเลย แต่พี่พิธีกรรวบรัดให้จบงานในเวลา 17:00 เนื่องจากใกล้เวลาตึกในส่วนออฟฟิคปิด ทำให้วิทยากรอารมณ์ค้างเบาๆ (เหมือนไม่จบแบบมึนๆ) ทาง TCELS มอบของแก่วิทยากร และคุณ Ernest To ได้บอกว่า เราสามารถเก็บไอเดียของเรากลับไปที่บ้่นเพื่อนำไปใช้ในการแข่งขันได้ หลังจากนั้นก็ทยอยกลับบ้าน และถ่ายรูปเป็นที่ระทึก



งานนี้สนุกมากทั้งช่วงเช้าที่ได้สาระความรู้นอกห้องเรียนสำหรับน้องๆนักศึกษา ได้ความรู้ใหม่ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการแพทย์ 
ช่วงบ่ายที่ได้ฝึกฟังภาษาอังกฤษ ได้ฝึกคิดไอเดีย ได้เห็นบางฉากจากหนังไซไฟต่างๆที่ต้องหามาดู ได้รู้จักพี่ๆเพิ่มถึงจะช่วงเวลาสั้นมากๆ และพี่ๆในกลุ่ม workshop ได้ยืนยันว่าจะส่งไอเดียเข้าประกวดแข่งขันที่งานนี้ด้วย ฮ่าๆ

Key note : ในช่วงหนึ่ง ทางวิทยากรได้เปิด vdo ในสไลด์ของหนัง star war ฉากหนึ่ง ที่โดนดาบเลเซอร์ฟันจนมือขาด และนำมาต่อมือใหม่ ตอนนี้มีการทำมือเทียมให้คนพิการด้วย ด้วยสั่งงานจากปลายประสาทให้ทำงานเหมือนนิ้วจริงๆ หยิบจับสิ่งของได้

Update : ตอนนี้ทางหน้าเว็บของการประกวด มีการอัพคลิปการ workshop ทั้งหมดไว้ สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมได้ดูกัน 

การส่งไอเดียเข้าประกวด รายละเอียดตามนี้เลย หมดเขต 30 มิถุนายา 2557 และประกาศผลเดือนสิงหาโน้นเลยจ้า โชคดีทุกท่านคะ



ป้ายกำกับ:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก