เดินชิลงาน Startup Thailand & Makerholic 3

งาน startup Thailand ได้จบลงไปแล้ว ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 28 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นอกจากจะมีการจัดแสดงบูทของ startup รวมไปถึงหน่วยงานรัฐบาล ธนาคารแล้ว ยังมีงาน makerholic 3 ที่จัดงานที่ห้อง meeting room 4 และมีการแข่งโดรนคัดตัวทีมชาติไทยด้วยหล่ะ ภายในงานจะเป็นยังไงมาดูกัน

การเดินทางมาศูนย์สิริกิติ์ก็ง๊ายยยง่าย มาด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เลย เดินเข้างานไปเรื่อยๆ จะเจอโซน makerspace อยู่ด้านหน้าก่อนเลย มีทั้งเครื่องทอผ้า เครื่องเล่นเกมส์ และโดรน ซึ่งเป็นไฮไลต์ของทางนี้คะ

จากนั้นเดินเลี้ยวขวาเข้างานเลย ก่อนอื่นลงทะเบียนกันก่อนนะจ๊ะ ลงทะเบียนออนไลน์จากที่บ้าน ผ่าน ZipEvent ก่อนเลยจ้าา จากนั้นเปิดหน้าแอปแสดงบัตรให้เขาสแกน และเราจะได้สติกเกอร์มาติดเสื้อ เดินเข้าไปด้านใน จะพบกับโซนปรึกษาปัญหาทางธุรกิจ 1:1 ซึ่งสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า หรือ walk-in มาได้เลย

เดินเข้างานที่ห้องจัดแสดงงานเลยจ้า ทางเข้ามีทางเดียวนะ แต่ทางออกหลายทาง เข้ามาชักภาพกันก่อนได้เลย มีหลายจุดเลยจ้า

เข้ามาในสุด เป็นส่วนของ co-working space สนใจเจ้าไหนพูดคุยจับจองพื้นที่กันได้เลย

จากนั้นเข้ามาโซนของภาครัฐ มีบ้านหลายสีเลย ทั้งสีเขียว สีส้ม เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาได้โดยตรง เช่น การจัดตั้งบริษัท เรื่องการยื่นบัญชีรายปี การเสียภาษี การกู้เงิน การนำนวัตกรรมมาต่อยอด

จริงๆตรงจุดชักภาพ ก็มีบอกว่า startup คืออะไร เกิดจากอะไร มีเจ้าไหนบ้างแก้ปัญหาอะไร ขั้นตอนการเติบโตเป็นยังไง ซึ่ง startup จะเติบโตได้เร็วกว่าธุรกิจอื่น การเริ่มต้น เริ่มจากไอเดียที่เราคิดแก้ปัญหา จากนั้นทำการศึกษาค้นคว้า สำรวจตลาดลงพื้นที่จริง ออกผลิตภัณฑ์ ขยายตลาดไปยังต่างแดน

มาถึงจุดแสดงผลงานและบริษัทด้านใน อย่างเครื่องรับซื้อขวดรีไซเคิล มีคนสนใจเยอะมากกกกก ซึ่งมันคือธนาคารขยะนั่นแหละ แต่สะดวกกว่าคือเราไปขายขวดเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องมารอว่าธนาคารขยะวันไหนจะมา

ส่วนของมหาวิทยาลัยก็มีออกบูธเช่นเดียวกัน เช่นของวิศวะจุฬา มีหุ่นยนต์ฟื้นฟูคนที่มีปัญหาสมองอ่อนแรง

สำหรับบูธ startup มีหลากหลายเจ้าเลย เช่นด้าน travel funding fintech argutech healthtech มาเป็นร้อยๆบริษัทเลยนะ สร้างจากมือคนรุ่นใหม่ บาง produce เราก็คุ้นเคยกันอยู่แล้วเนอะ บางอันเราก็เพิ่งเจองานนี้แหละ แต่ทางเดินบางทีแคบมากกกกกก จนไม่อยากถ่ายรูปบูธเลย แถมมีเด็กเล็กๆมาอีก คือจำเป็นต้องมาเบียดผู้ใหญ่ไหมลู๊กกก

โซนธนาคารก็มีหลายเจ้า เช่นไทยพาณิชย์ มีน้องหุ่นยนต์มาโชว์ด้วย เขามีแข่ง startup เหมือนกัน เป็นงานวิจัยนักศึกษางี้ ของธนาคารออมสินก็เช่นกัน มีจัดทุกปีเลย หลายท่านคงเห็นสปอตทางทีวีอยู่บ้างเนอะ

สำหรับอีกโซน ซึ่งเงียบมากเลยตอนเราไป (แต่ตอนเย็นมี pitch hackathon คนคงเยอะขึ้นมั้ง) เป็นอีกส่วนนึง คือ digital technology incubation network (ก็อปจาดแอปมาเนอะ) มีพี่สาวน่ารักท่านนึง(หรือเพื่อนสาวหว่า) มาเรียกแขกมาร่วมสนุกในงานส่วนนี้ ในนั้นมีสามโซนย่อย เราต้องโหลดแอป stamp มาก่อน จากนั้นให้พี่ๆที่ใส่เสื้องานมาปั้มตามโซนต่างๆ กรอกแบบสอบถาม จากนั้นจับรางวัลจ้าาา
ปล ไม่ได้ถ่ายรูปบูธตรงนี้มาเนอะ อิอิ

โซนแรก The Dealmaker Club ตรงนี้มีทั้ง AR ของ star wars ซึ่งทั้งเจ๋งทั้งน่ารัก มีแว่น VR 3 มิติให้ใส่เล่นด้วย

และได้ลองเล่น stamp เองด้วย การทำงานบนหน้าจอทำได้ทั้งบนแอปและบนเว็บ ตัวขาวๆที่เราเห็นกันเป็น version แรกเลย ตอนนี้มี version 3 เป็นสีแดงบนภาพ ตัวสีขาวนี่กดที่จอจนแถบเต็ม จากนั้นเราจะได้ 1 stamp ออกมา ตัวสีแดงให้กดที่เครื่องก่อน แล้ววางบนจอเพื่อ stamp บนเครื่องมีรหัส OTP ของเครื่อง และมีที่ชาร์จแบตด้วย ซึ่งการทำงานคือ ตัว stamp จะส่งรหัสมาชุดนึง ให้ตัวแอปหรือหน้าเว็บถอดรหัสออกมา แล้วเป็น stamp ออกมา

ส่วนต่อมา คือของภาครัฐ มีทั้ง SIPA CAT EGA TOT และส่วนสุดท้าย ส่วนของภาคการศึกษา มีน้องๆนักศึกษาออกบูธ มีบ้านผีสิงของน้องๆของมหาวิทยาลัยศรีปทุมด้วย เป็น VR นั่นแหละ เล่นในห้องมืด มีจอยด้วย การเล่น หันซ้ายขวาไป แล้วเลื่อนจอยไปในห้อง น้องๆน่ารักมากเลย เกมส์สนุก คือเดินไปเรื่อยๆในห้องมืดๆหลอนๆหน่อย เดินไปตามไฟกระพริบๆ เดินไปเรื่อยๆ ตุ๊งแช่ เจอผีโผล่มาตกใจเลย และเกมส์ก็จบคะ จากนั้นอะหรอ เดินมึนๆออกมา ความยาวเกมส์ไม่ยาวมาก ประมาณ 5 นาที เรายังมึนเลยจ้า เรามาเห็นอีกทีมีจอแสดงออกมาด้านนอกด้วยจ้า ว่าเราเห็นอะไรบ้างงี้

====================================================

เขาว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง อุดหนุน food center ของที่นี่ ผัดไทกุ้งสด 60 บาท ทำนาน แต่ให้เยอะ ปรุงเองได้ตามใจ และของหวานด้วยไอติมไข่แข็ง ที่คนขายแกดูเคตตลอดที่ไปทาน ราคา 35 บาท topping เติมเองได้ตามใจไม่อั้นเลย

====================================================

อิ่มท้องแล้ว มางาน Makerholic ต่อเลยจ้า ที่ห้อง meeting room 4 ตรงข้ามโซน makerspace ที่เราเจอตอนแรก มีทั้งจัดแสดงผลงาน และ workshop ด้วย ไม่ทราบข่าวเลย อดตามระเบียบ

พ่อเราสนใจ 3D Printing มาก มันมีสองแบบ คือแบบพลาสติกม้วนฉีดเป็นเส้น กับแบบเหลวฉีดเรซิ่น ที่ทาง INEX นำมาแสดงคือแบบฉีดแบบเส้น เลเยอร์ชั้นเล็กมาก 0.1 mm พ่อนั่งคุยจนที่เขาปริ๊นมันสูงขึ้นสองเซ็นต์

ผลงาน IoT

งาน workshop อดเลยเรา อยากมีส่วนร่วม

อันนี้เป็นแขนกลอัจฉริยะไร้สาย เราใส่ถุงมือก่อน เขาให้เราแบมือและกำมือก่อน จากนั้นอุปกรณ์จะเชื่อมต่อกันผ่าน Wi-Fi เวลาเราขยับแขนงี้ แขนกลจะขยับตาม ใช้กับในด้านอุตสาหกรรม หรือหุ่นยนต์ทำอาหาร จดจำการปรุงแล้วทำแทนเราได้เลย

การแข่งขันโดรนทีมชาติไทย เขามีเป็นสมาคมด้วยนะเออ คนที่ขับโดรน ต้องมีใบประกอบ โดรนมีประกันด้วย ยังกะเครื่องบินเลยเนอะ บินได้ทุกที่ถ้าไม่ขัดกับสิทธิของเขา คนอายุน้อยสุดที่มาแข่ง คือ เด็กผู้หญิงอายุ 9 ขวบ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย มีแข่งเป็นรอบๆ จัดที่ด้านนอกตรงลานจอดรถ ซึ่งร้อนมากแดดแผดเผาแรง แต่ยังที่ร่มอยู่บ้าน มีสาวพริตตี้ข้างสนามด้วย เขาแข่งเป็นคู่ๆ ตอนแรกที่ไปดูคือโดรนเล็กมาก มองแทบไม่เห็นเลย จุดที่ฮา คือของโดรนตัวนึง ระหว่างแข่งอยู่ ดันไปชนผ้าใบที่เสาเขา คราวนี้มันเสียหลัก ลอยไปสูงและไกลลิบ ลอยคว้างในอากาศ ไปหล่นไหนก็ไม่รู้ -*-

ระหว่างนี้มีคุณลุงจากร้านขายโดรน มาสาธิตผลิตภัณฑ์ โดรนคุณลุงเขาติดกล้อง แล้วเราสามารถดูได้ผ่านไอแพดได้เลย มีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทุกเพศ ทุกวัย ในรูปดูไกลเนอะ โดรนสีขาวของคุณลุง

และเทปบันทึกภาพการแข่งโดรน พี่คนนี้แข่งคนเดียว เขาใส่แว่นพิเศษด้วย น่าจะช่วยในเรื่องการมองเห็นโดรน กติกา คือ บังคับโดรนไปตามเส้นทาง ทำเวลาให้ดีที่สุด เพื่อตัดตัวเป็นสี่คนสุดท้ายในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งตัวแทนประเทศไปแข่งที่ฮาวาย ชิงเงินรางวัล 7 ล้านบาท

สรุปสั้นๆ เราจำได้แต่ 3D printing กับการแข่งโดรน ขออภัยด้วยคะ

====================================================

ปล ขากลับบ้าน เจอปิดถนน ไม่บอกสักคำเลยยยยย