วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560

มารู้จัก google adwords จาก beginner สู่ advance โดยพี่เซียร์

สวัสดีปีใหม่ทุกท่าน พบกัน workshop แรกของปี ว่ากันด้วยเรื่องของ online marketing ที่มีหลายหลากวิธี ในวันนี้จะเป็นเรื่องการทำ online marketing ด้วย google adwords สอนโดยผู้เชี่ยวชาญทางนี้โดยเฉพาะ คือ พี่เซียร์ รุ่น 13 นั่นเอง จัดขึ้นวันที่ 11 มกราคม 2560 ซึ่งข้างล่าง NIA จะมีงานวันเด็กเหมาะกับรุ่นเราๆเลยทีเดียว ผิดหล่ะๆ เดินกดลิฟต์ชั้น 3 ไปห้อง 301 โลดคะ

ก่อนหน้านี้ในกรุ๊ปไลน์รวมรุ่นจะมีให้ลงทะเบียนกันก่อน โดยใส่เว็บที่เราต้องการโปรโมตด้วย ในที่สุดมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 14 บริษัท แต่เรายังไม่ได้เปิดบริษัทเลย แต่จะใช้กับโปรเจกอื่นๆในอนาคตอันใกล้นี้

ก่อนอื่นพี่ป๋อก็เล่าให้ฟังเกี่ยวกับเว็บของสำนักงานนี่แหละ เมื่อก่อนเป็น text ล้วนๆเลย พอมาเปลี่ยนเป็นหน้าตาปัจจุบันที่รูปเยอะๆ กลายเป็นว่าคนหาเว็บสำนักงานไม่เจอ เพราะตัว text จะทำ SEO ได้แทบจะอย่างเดียวเลย ส่วนวิธีแก้คือใส่ชื่อรูป และข้อความใต้รูป พี่บอทของอากู๋จะได้หาเจอเนาะ

จากการอบรม คิดว่าเราพยายามเขียนให้คนอ่านเข้าใจง่ายที่สุด บวกกับความรู้เก่าตอนที่ไปเรียน digital marketing จากพี่ฝน สุมนา ตอนอบรมเถ้าแก่น้อยเทคโนโลยีปี 4 ซึ่งเราจะอัพขึ้นไปทีหลังเนอะว่าเรียนอะไรบ้าง ดังนั้นเราจะพออธิบายได้บ้างว่าประมาณไหนยังไง นอกเหนือจากที่พี่เซียร์อธิบายเนอะ


agenda ในวันนี้ เป็นดังนี้


มาลุยกันแต่ละหัวข้อเลยจ้า

1. google account setup
เว่ากันแบบง่ายๆ ผู้อ่านมี gmail หรือเปล่าคะ ถ้ามีแล้ว เข้าไปที่ https://adwords.google.com เลยคะ

2. introduce google adword
การตลาดในโลกมนุษย์ของเรา จะแบ่งเป็นสองแบบใหญ่ๆ คือ

on ground marketing หรือแบบ offline จะมีทั้งสื่อทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ป้ายโฆษณา และ
online marketing คือ อยู่บนออนไลน์ เช่น

google search เวลาที่เราเข้า google ค้นหาสักสิ่งอัน จะมีป้ายเขียวๆเขียนว่า ads อยู่ นั่นคือเป็นการซื้อโฆษณา ซึ่งใช้จะอยู่นอกจากผลลัพธ์ที่เราค้นหา ถ้าในผลลัพธ์ที่เราค้นหาแรกๆ ต้องใช้ SEO หรือใช้ keyword ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้เวลาทำนาน อย่างตํ่า 6 เดือน

google play ก็มีเช่นกัน เป็นป้ายเหลืองๆ ไม่รวมกับการค้นหาเช่นกัน


ใน facebook ก็จะมีเช่นกัน เวลาเราเลื่อน feed ก็จะเห็นโพสที่เป็น sponsor หรือแถบข้างๆในคอม




ใน youtube จะเป็นแบบ display บางทีคั่นเป็นตัววิดีโอ เป็นแถบโฆษณาขึ้นด้านล่าง หรือไม่ก็ด้านข้างวิดีโอ มีอีกอันด้านบนหน้าเว็บ จะขึ้นวันละเจ้าเท่านั้น ได้ข่าวราคาแรงอยู่นะเออ




สรุปถ้าเราใช้ google adwords จะขึ้นที่ไหน
จะขึ้นใน google search ใน play store ใน youtube ต้องลองเล่นดูเนอะ

ในคอร์สนี้ จะเป็นการลงโฆษณาบน google search นะ เพราะทุกท่านที่เรียนคอร์สนี้มีเว็บเป็นของตัวเอง และคนเข้าไปถามอากู๋ทุกวัน ดังนั้นก็จะเจอง่ายสุด

3. KPI setting




คำศัพท์น่ารู้
- impression จำนวนคนที่เห็น ads เรา อาจจะเทียบกับพื้นที่หน้าเว็บว่าโฆษณาเรากินพื้นที่เท่าไหร่
- click ตรงไปตรงมา ก็คนที่มาคลิกโฆษณาที่เราสร้างนั่นแหละ
   click through rate เรทคนที่มาคลิกโฆษณาเป็นเท่าไหร่
- interaction หลังจากกดเข้ามาแล้ว
  bounce rate คนที่เขามายังไม่ทันทำอะไร กดออก
- conversion rate คนซื้อของในเว็บเราเท่าไหร่
   bucket rate ตะกร้านึงซื้อของเท่าไหร่
- active user สำหรับแอป คือ คนที่ลงแอปเราแล้วยังเปิดแอปเราใช้อยู่
- customer lifetime value เราแปลความง่ายๆ เราได้ลูกค้า 1 คน ใช้เงินเท่าไหร่

คำศัพท์ตระกูล cost per ทั้งหลาย แปลไทยง่ายๆว่า จ่ายเพื่ออะไร
CPM cost per impression ให้คนเห็นโฆษณาของเรา 1000 คน ใช้เงินเท่าไหร่
อันนี้มีสูตรนะ CPM = (cost/impression) * 1000
CPC cost per click จ่ายเท่าไหร่ให้คนมาคลิก
CPA cost per action จ่ายเมื่อคนกดโฆษณา มี action บางอบ่างกับเว็บไซต์เรา
CPO cost per order ทำให้ลูกค้าเป้าหมายของเรา มี potensial สูงในการซื้อของเรา
CPR cost per revenue จ่ายเพื่อให้เรามีรายได้ เข้าใจว่าน่าจะถึงขั้นลูกค้า checkout ตะกร้าสินค้าไปแล้ว ถึงจะจ่ายเงินค่าโฆษณา
CPI cost per installation จ่ายเพื่อให้คนมาลงแอปปิเคชั่นของเรา

4. Keyword planner

ไปที่ keyword planner https://adwords.google.com/KeywordPlanner
ระหว่างนี้หลายๆท่านจะมีปัญหาตอนนี้ เพราะเข้าไปเจอกรอกตัว billing ซึ่งต้องใส่เลขบัตรเครดิตและที่อยู่บ้าง ให้สร้างตัว campaign เลยบ้าง แต่เราไม่เจอเฉย คงเพราะผูกบัตรเครดิตใน play store และกรอกที่อยู่ใน google adsense เลยไม่ได้เจอปัญหานี้ -*-

กดตรงปุ่มสีนํ้าเงินนั่นแหละ และเข้ามาที่หน้านี้



เราคุยกับตัวเองว่าเว็บเราเด่นอะไรบ้าง ลงกระดาษที่จดให้
จากนั้นพี่เซียร์จะมาดูแล้วสรุปให้เรา ดังนั้นเราต้องรู้ เนื้อหาของเว็บไซต์เรา และสามารถสร้าง character  ของเว็บเราได้ เพื่อนำจุดเด่นของเว็บเรามาทำตัว ads ต่อไป

จากนั้นกลับมาที่ keyword planner ของเรา กรอกข้อมูลไปดังนี้


ข้อมูลเยอะ สามารถดาวน์โหลดไฟล์มาส่องแบบชิวๆได้นะ


พบว่า คนค้นหา android app development เยอะ คำให้เราต้อง bid ในราคาที่สูง ส่วน python programming คนหาน้อย ราคา bid นี่ ไม่รู้ดิ น่าจะไม่มีใคร bid มั้ง ถ้า python code เรา bid คำนี้ที่สองบาท และไม่มีใครใช้ keyword นี้ในการทำ adwords ดังนั้น ads ของเราขึ้นบนสุดแน่นอน

แล้ว bid คืออะไร ตรงความหมายคือประมูล ถ้าเรา bid ในราคาสูง จะมีโอกาสขึ้นโฆษณาตำแหน่งดีๆ อย่างสามอันที่หน้าแรกงี้ ที่หนึ่งสองสามอยู่ด้านบนเหมือนกัน แต่ลำดับต่างกันเพราะบนสุดจ่ายเงินเยอะ แต่ถือว่าคนเห็นเท่ากันนะ เพราะมันจุดเดียวกันนี่เนอะ

แปะเคสตัวอย่างจากที่เคยได้อบรมเรื่อง digital marketing เนอะ จำได้ไม่ลืมเลย
มองไม่ผิดหรอก ทาง grab ก็ bid คำว่า uber และทาง uber ก็ bid คำว่า grab เช่นกัน ลองค้นหาดูได้ :)



เมื่อทดลองกันเรียบร้อย ก่อนเบรก พี่เซียร์ได้ให้เราคิดตัว ads บน google search ว่าเราจะต้องเขียนอะไรบ้าง
ข้อความหลัก 30 ตัวอักษร
ข้อความรอง 30 ตัวอักษร
และคำบรรยาย 80 ตัวอักษร

ส่วนตัวลิ้งค์ใส่อะไรก็ได้ เคยมีเคสนึงประมาณว่าเราเป็นเจ้าใหญ่ เกาะเจ้าตลาดอยู่ แล้วก็ทำ ads นี้แหละ ใส่ลิ้งของเจ้าตลาด พอกดมัน redirect ไปหน้าเว็บบริษัทตัวเอง เคสนี้ เราต้องส่งไปบอกทางกูเกิ้ลไทยให้ระงับโฆษณานี้ และส่งจดหมายไปบอกบริษัทที่ทำ ads นี้ว่า จะเอาออกเอง หรือจะให้เราดำเนินการตามหมายศาล

บรรยากาศการเรียนคะ ตั้งใจกันสุดๆ พี่เซียร์เดินดูนักเรียนทุกคนอย่างทั่วถึง เพื่อนๆในคลาสก็ช่วยกันเรียน






พักกินหนมกัน...



5. Campaign Setting
จากนั้นเรามาเริ่มสร้าง campaign ads ตามมาเลยคะ กดที่ create your first campaign คนที่เคยทำแล้ว กดปุ่มสีแดงๆได้เลยจ้าา


ตั้งชื่อแคมเปญ เลือก type เป็น search network only ซึ่งถ้าเราโปรโมตแอป หรือในยูทูป ก็เลือกประเภทได้จากตรงนี้เลยนะ ตรง all feature จะมีบางอันที่เพิ่มขึ้นมา เช่น สามารถตั้งเวลาการแสดง ads ได้


ติ๊กออกตรง include search partner ออก ถึงแม้ว่าจะลงโฆษณาได้เยอะที่ขึ้น เพราะลงใน website ที่เป็น partner กับ google แต่เราจะเสียเงินเยอะขึ้นด้วย


จากนั้นเลือก location คือประเทศที่เราจะแสดงแคมเปญของเรา และภาษาที่ใช้ด้วย ซึ่งกันเหนียวเลือกไทยกับอังกฤษเลยจ้า



Bid strategy เลือก manual CPC เพราะว่าเราเพิ่งทำครั้งแรก ยังไม่รู้ว่าใช้ตังค์ทั้งหมดเท่าไหร่


ถ้ามีการใช้โลเคชั่น เบอรโที ใส่ด้านล่างก่อน ถ้าเรียบร้อยคลิกปุ่มด้านล่างเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป คือการสร้าง ad group ซึ่ง 1 แคมเปญ มีได้หลาย ad group นะ ใส่จำนวนเงินที่เราจะ bid จากนะ้นใส่หน้าเว็บที่เราจะโปรโมต เพื่อค้นหา keyword ที่เกี่ยวข้อง พร้อมแสดง volume ออกมาว่า คำค้นนี้ถูกค้นหากี่ครั้งต่อเดือน


จากนั้นมาสร้างโฆษณากันเถอะ ก่อนเบรกพี่เซียร์ได้ฝากให้พวกเราคิดคำที่เอามาใส่ ขั้นตอนนี้ใส่ได้เลยคะ ซึ่งด้านขวาจะแสดงว่าจะเราใส่คำใส่อะไรลงไป หน้าเว็บแสดงผลแบบนี้นะ บนมือถือแสดงผลแบบนี้นะ

headline 1 และ 2 ใส่ไปไม่เกิน 30 ตัวอักษร และคำบรรยายใส่ไปไม่เกิน 80 ตัวอักษรนะ
ส่วน final url กับ path มีกิมมิคเล็กน้อย ตามเคสด้านบน คือใส่ไรก็ได้ ไม่มีผลต่อ url จริงที่เปิดหลังจากกด ads นะ ซึ่งจะอธิบายด้านล่างอีกที


กด Create ad ปุ๊ป เราสร้าง ad group เสร็จแล้วหนึ่งอัน พร้อมใช้จริง


กด review campaign เพื่อดูก่อนลงโฆษณาจริง ของเราใช้ budget สูงทีเดียว


เรายังไม่ปล่อย ads ลงไป กด ... save & pause จ้าา แต่ถ้าพร้อมแล้วกด publish ที่ปุ่มนํ้าเงินเลยจ้า

สุดท้ายก็มาหน้านี้เนอะ ถ้าจะสร้างอีกปุ่มแดงโล้ดด


มีข้อแนะนำซักถามจากคุณกันต์ ตอบด้วยพี่เซียร์ สรุปมาดังนี้
- adwords เปรียบเสมือนพริ๊ตตี้ขายรถ ดึงให้ช่างภาพมาถ่าย เอ้ยยยย ดึงให้ลูกค้ามาดูรถ ถ้าดูรถแล้วเฉยๆ ยังไม่โดนใจเท่าพริ๊ตตี้ ก็เดินออก เท่ากับว่ามี bounce rate
- แล้วเราจะทำอย่างไรให้ลูกค้ามาซื้อเรา มี tool อะไรหรือเปล่า คำตอบคือ ตัว adwords ก็ track ได้แค่ตอนที่เราลง ads ลูกค้าจะเจอเรา ต่อเมื่อเขาค้นหา keyword ที่เรา bid มา แต่ตอนลูกค้าเขามาซื้อของเว็บเรา ก็ไม่ใช่หน้าที่ adwords หล่ะ อาจจะใช้ google analysis ในการดู event ต่างๆที่เกิดขึ้นในเว็บเราได้ (บล็อกเรามี google analysis ให้อยู่แล้ว เนื่องจากตัว blogger เป็น product นึงของ google)
- เราต้องคิดว่า ทำอย่างไรทำให้คนเดิมเขามาที่เว็บเรา แต่เราจ่ายเงินถูกลง อาจจะเชื่อมหลายๆ platform เช่น facebook slideshare ซึ่ง facebook จะมีปุ่ม like ให้กดติดตามข่าวจากเพจเราอยู่แล้ว
- ควรทำเว็บไชต์ให้เรียบร้อยก่อน ไม่ว่าจะเป็นความสวยงาม ระบบหลังบ้าน ก่อนที่จะทำ adwords ซึ่งเราเห็นด้วยนะ เพราะนอกจากจะไม่ต้องเสียเงินฟรีๆตอนที่เว็บไม่เสร็จดี คนเข้าหาก็ตูคลิกไรหว่า เขาก็จะได้รู้ว่าเว็บไชต์เราขาย product หรือมี content อะไร
- เว็บเราควรจบ solution ในเว็บเดียวให้ได้ เช่น จบตรงสั่งซื้อของหน้าเว็บ
- การ sign-in หรือ subscription เป็นการที่ลูกค้า action เอง เป็นการเก็บข้อมูลลูกค้าโดยที่เขารู้ตัว แต่ถ้าเขาไม่รู้ตัวจะเป็นการ tracking หลังบ้านไว้ ซึ่งเราจะรู้แค่ว่า คนนี้เพศอะไร ชอบอะไร เราจะไม่รู้ชื่อแซ่เขา
- ระหว่าง B2C B2G B2G อันไหนควรทำ adwords ดี
สรุป B2G G คือภาครัฐ ไม่น่าทำ เพราะคงไปไม่ถึงเขา ส่วน B2B เน้นคำเฉพาะหน่อย และ B2C มีอะไรให้เล่นได้เยอะแยะ


มีการทำ ads ให้ดูจริงๆ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของพี่สิริ หรือพี่กล้วยของเรานั่นเอง
- ตัวอย่าง keyword ที่ใช้ เช่น กล้วยบด banana syrups ผลิตภัณฑ์กล้วย กินกล้วยไม่ต้องปอกเปลือก อาหารเด็กอ่อน วัตถุดิบอาหารแปรรูป
- เว็บไซต์ผลิตภัณฑ์กล้วยพี่สิริ www.banana-tai-tai.com


- คำถามเชิงลบคือ keyword ที่ไม่ต้องการให้เจอ เช่น โรงพยาบาลนี้ไม่ได้รักษากระดูก ก็จะใส่ รักษากระดูกเข้าไป แต่ในเคสนี้มีคำว่ากล้วยบดโผล่เข้ามาเฉย แสดงว่าก่อนหน้านี้เคยมีการใช้คำนี้ไปแล้ว ประมาณนั้น
- จากนั้นก็มา get idea พบว่า keyword ที่ใส่ การค้นหาโดยเฉลี่ยค่อนข้างน้อยอยู่ เลยจะใช้คำอื่นๆที่ใช้ adwords เสนอมา ดูค่อนข้างยากเลยทีเดียว พี่เซียร์เลือก
- ของพี่สิริคือโทรมาสั่ง อาจจะใส่เบอร์โทรเพื่อโทรเข้ามาสั่งของเลย
- สร้างแคมเปญกันเถอะ ชื่อกล้วยบด กดไปตามขั้นตอน ส่งทั่วไทย เลือกภาษาอังกฤษเพิ่มด้วย เพราะเรื่อง keyword
- ใช้ manual CPC เพราะว่าเรายังไม่รู้ว่า keyword เท่านี้ ใช้เงินเท่าไหร่
- ราคาเริ่มต้น 5 บาท จากคำที่เราสนใจ bid และพี่สิริมีงบ 3000 บาทต่อเดือน ดังนั้นเฉลี่ยวันละ 100 บาท
- ส่วนขยาย เพิ่มเบอร์โทรศัพท์ สำหรับโทรมาสั่งซื้อของ อยู่ตรงด้านล่างสุดเลย




- ตัว ads จริง ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่หมดเพื่อความน่าสนใจ และดูโดดเด่น โดดเด้ง ตัวเส้นทางอาจจะใส่คำไปมั่วๆได้ เพราะเป็น display เฉยๆ ความเป็นจริงจะเข้า url หลัก คือที่เรา set ไว้ที่หน้า landing page นั่นเอง
- ตรวจสอบและตรวจทานสักนิด จ่ายวันละบาทเท่านั้น ดูตรงค่าประมาณรายวัน
- adwords เก็บเงินรายเดือน หรือครบทุก 2000 บาท
- กดบันทึกและสิ้นสุด เพื่อนำ ads ที่เราสร้างนั้น มาเป็น public ถึงสถานะ พร้อมทำงาน เดี๋ยวรอเขา approve ก่อน ซึ่งจะแจ้งทางหน้าเว็บ และที่ gmail ถ้าเราเปลี่ยนงี้ ต้องรอเขา approve ใหม่ จะเสียเวลา เหมือนใน play store ถ้าเรามีการเปลี่ยนแปลงอะไรตอน publish application ของเรา แอปเราจะขึ้น play store ช้า

ถ้ามีกรณี spam click จะไม่นับ ซึ่งทาง google จะดูว่า IP นี้ คลิกซํ้าๆ หรือดูระยะห่าง อาจจะนับเป็นคลิกครั้งเดียว

ถ้าโปรโมตแอป ใช้ universal app campaign ซึ่งเราจะมาลองทำและมาเล่าอีกทีหลังเนอะ

ทิ้งท้ายด้วยบัญชี MCC คือบัญชีที่เอเจนซี่ใช้ ซึ่งตัวหน้าแคมเปญก็จะเป็น account ของลูกค้าแทน

ทางพี่ๆจาก NIA มีของมาแจก คือไดอารี่จากทาง NIA เป็นของขวัญปีใหม่ และชักภาพที่ระลึกกันดังนี้




ปิดท้ายด้วยพี่สิริ ซึ่งรายงานผลการลงโฆษณาในช่วงดึก ดังนี้


และตอนเช้าเราก็เข้า google ลองหาในมือถือ เจอดังนี้ ซึ่งลิ้งค์ที่เราเข้าไป ไม่ใช่บนหน้า adwords นะ แต่เป็นหน้าหลักของเว็บไซต์ ที่พิมพ์ไว้นั่นเอง


ตอนนี้เราคิดว่า ก่อนที่จะใช้ adwords มาโปรโมตแอปเรา เราต้องทำแอปให้เรียบร้อยก่อนเนอะ ไหนจะ content ของบล็อกอีก งั้นขอตัวไปปั่นงานก่อนนะคะ สวัสดีคะ

ปล ถ้าอยากศึกษา adwords เพิ่มเติม ทาง google ใจดีบอกแหล่งศึกษา ดังนี้

subscription youtube channel LearnWithGoogle Thailand
https://www.youtube.com/user/learnwithgoogleth
วันดีคืนดีจะมีผู้เชี่ยวชาญ google adwords มา hangout ให้ฟัง หรือไม่ก็สอนเป็นขั้นเป็นตอนเลย ถ้าอยากฟังภาษาอังกฤษ https://www.youtube.com/user/learnwithgoogle เลยจ้าาาา



Google academy for ads
https://academy.exceedlms.com/student/catalog?_ga=1.153971184.930997880.1481858611
จริงๆมีสอนหลายอย่างเลยนะ สอนเขียนโปรแกรมก็มี



เขามีให้เราไปสอบ cerf ของ google adwords ด้วยนะ สำหรับเอเจนซี่เลย เราต้องเป็น google partner ก่อนเลย
https://support.google.com/partners/answer/3154326?hl=th
https://www.google.com/partners/#p_overview

เพจ google adwords
https://www.facebook.com/AdWordsThailand
ซึ่งเขาบอกแหล่งเรียนรู้มาให้เราเนอะ ซึ่งที่แปะก่อนหน้านี้ มาจากเพจนี้นี่แหละ

ป้ายกำกับ:

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

ตะลุยกินแหลก แจกเข้าไป กับอาหารต้นตำรับจากแดนอาทิตย์อุทัย ย่านสีลม

เนื่องด้วยเราไป take course TOEIC ที่ย่านสีลม ซึ่งจะรีวิวภายหลังเนอะ
เราคิดว่าแถวสีลมนั้นมีคนญี่ปุ่นมาอยู่ มาทำธุรกิจเยอะ ร้านขายเครื่องกีฬาก็มาก ร้านอาหารญี่ปุ่นก็เยอะ บาร์ก็เยอะเช่นกัน -*- เลยคิดว่าลองไปทานอาหารร้านต้นตำรับดูว่าเป็นเช่นไร เลยตามรอยร้านที่เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทั้งหลายแนะนำ แต่ละร้านจะเด็ดดวงขนาดไหน ไปชมเลยจ้า

ปล ทุกร้านสามารถขอใบกำกับภาษีฉบับเต็มได้นะ แต่ตอนบล็อกนี้เสร็จคงไม่ทันแล้วแหละ แต่อย่างน้อยเผื่อใครพาลูกค้ามากินก็มีใบเสร็จมาเบิกบริษัทได้งี้

ปล นอกจากย่านสีลม ยังมีย่านสุขุมวิทอีกน๊าาา บางร้านเปิดหลายสาขา

ร้านแรก Osaka ohsho
Location : หลังตึกญาดา มีเกี้ยวซ่ายักษ์ตั้งอยู่ มีอร่อยเลิศบายคุณหรีดรับประกัน
Menu :
1. Ohsho set D 280 บาท ประกอบด้วยเกี้ยวซ่า 6 ชิ้น ราเมนโชยุ และซาฮัง
2. Green tea 50 บาท
Service : บวก service change 10% + vat 7% เพิ่ม




ร้านนี้มีที่ให้นั่งทานสองชั้น เนื่องจากเรามาคนเดียว ข้างล่างเต็ม เลยมาชั้นสอง เราว่าค่อนข้างแคบอยู่ ร้านเปิดเพลงญี่ปุ่นคลอไปตลอด ร้านนี้เขาว่าเด่นที่เกี้ยวซ่า สูตรส่งตรงจากโอซาก้าเลยทีเดียว มีสอง set menu ที่ลูกค้าสั่งกันเยอะ คือ set a เกี้ยวซ่า 12 ชิ้นพร้อมข้าว และ set d ที่เราสั่งมาทาน เพราะอยากลองหลายอย่าง ถ้ามาคนเดียว แนะนำ set a เนอะ เพราะน่าจะทานได้หมด ตัวเกี้ยวซ่าทอดกรอบด้านเดียวตามสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ แป้งบาง ไส้เป็นหมูผสมกับกะหลํ่าและขิง รสชาติเกี้ยวซ่าเราว่าเฉยๆอยู่ ตัวซาฮังหอมมากกกก หอมแบบไหม้ๆอ่ะ ใส่ผัก ใส่หมูชาชูชิ้นน้อยๆ อร่อยจริงๆ เกินหน้าเกินตาเกี้ยวซ่า ราเมงเป็นเส้นเล็กกลมสีเหลืองมาแบบออเดนเต้ หอมซุปโชยุ หมูชาชูมาแบบหมูสามชั้น อาจจะมันไปนิดนึง มีถั่วงอกแก้เลี่ยน แต่พอเย็นเส้นจะเริ่มนิ่มลงหล่ะ อร่อยอีกหล่ะ อร่อยเกินเกี้ยวซ่าไปหล่ะ ชาเขียวเป็นของพอตคา มาแบบกระป๋อง ไม่รู้หาซื้อที่ไหน เห็นแต่แบบหวาน แต่คุณหลอกดาว ในเมนูบอกมินิราเมน แต่มาบนโต๊ะ ไหนหว่ะมินิราเมน ปริมาณมาเต็มมาก ทำให้เราทานซาฮังและราเมนไม่หมด เสียใจมากๆ เจอราคาบวกเข้าไป ร้องไห้เลยยยย




ร้านนี้มีรุ่นพี่แนะนำ และเราเห็นว่าเป็นร้านเดียวในย่านนั้นที่พระเอกเป็นเกี้ยวซ่า
คะแนนเราให้ 3.5/5 หักเรื่องราคา บรรยากาศ และยังเฉยๆกับเกี้ยวซ่าอยู่

ร้านที่สอง Gold Curry Bangkok 


Location : หลังตึกญาดา เลยจากร้านเกี้ยวซ่าไปติ๊ดนึง ฝั่งตรงข้ามเป็นแชงกรีล่า เป็นร้านสีส้ม
Menu :
1. Omu Katsu Curry size SS 200 บาท
2. Water 20 บาท
Service : จริงๆมีนํ้าเปล่าฟรี เราพลาด 😫 สบายใจเพราะไม่ต้องจ่าย service change และ vat เพิ่ม มีแสตมป์สะสมแต้มด้วยนะจ๊ะ




วันที่ไปกินร้านเกี้ยวซ่า ร้านนี้คนเยอะมาก พอมาทานอีกวัน คนน้อยมาก ร้านนี้มี size ให้เลือก เห็นกันชัดๆว่าขนาดจริงเป็นเท่าใด มีตั้งแต่ไซส์ ss s m l xl xxl จนเมนูจานยักษ์ ข้าว 2, 5 และ 10 กิโลกรัม เมนู signature ของร้าน คือ ข้าวแกงกระหรี่หมูทอดทงคัตสึนี่แหละ แต่เราเห็นมีเมนูข้าวห่อไข่ด้วย นึกถึงร้าน omu ที่ยังไม่เคยเข้าไปทาน เลยสั่งเป็น Omu Katsu เหมือนสั่งอย่างเดียวได้สองอย่าง และทางร้านบอกว่าไข่เขานุ่มอร่อยมากๆ และเราเป็นผู้หญิงตัวเล็กบอบบาง สั่งไซส์ ss พอหล่ะ



ซูมด้านในนิดนุงงง เครื่องแน่นมากจริงๆ


ระหว่างรอพนักงานเสิร์ฟซุปมิโซะ ซึ่งเราสามารถบริการตัวเอง ตักซุปเองได้เลย ติงตรงใส่ผักกาดขาว รสชาติเลยทะแม่งๆไปนิด สักพักเมนูที่เราสั่งก็มาเสิร์ฟ มาพร้อมมีดเลย ตัวหมูทงคัตสึทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยนเลย กรอบนอกนั่มในมากๆ ตัวไข่ก็นุ่มละลาย นํ้าแกงกระหรี่เข้มข้นมากๆ ซอสทงคัตสึจะเค็มนิดๆ มีผักกระหลํ่าซอยทานแก้เลี่ยน รสชาติโดยรวมนัวเข้ากันอร่อยดี เน้นตัว topping ด้านบน เหมือนข้าวจะน้อย แต่ไม่น้อยนะเออ เราทานจนหมด อิ่มแปร๋เลยจ้า อิ่มจนจุก 555

ร้านนี้คนแนะนำมาเยอะมากๆ เป็นร้านดังร้านนึง นอกจากในเรื่องรสชาติที่เทพแล้ว ยังมีแข่งกินอาหารจานยักษ์ด้วย
คะแนน : 4.5/5 หักซุปมิโซะ ใส่ผักกาดขาวทำไม 😫
สาขาอื่นๆ : สุขุมวิท 39

ร้านที่สาม Katsu Shin
Location : ซอยทานตะวัน สีลมซอย 6 บอกเลยว่าเดินมาจากฝั่งสีลมจะงงแต่ฝั่งสุรวงศ์จะมาง่ายกว่า ถ้ามาจากฝั่งสีลม มาดังนี้ ... เดินเข้าซอยหกมาเลยจ้า มาตรงๆ เจอทางตันอย่าตกใจ ตั้งสติไว้ก่อน



ตรงข้างหน้าเป็นศูนย์อาหาร ซึ่งไม่ใช่ที่หมายเรา เลี้ยวซ้าย เดินไปสักแปปแล้วเลี้ยวขวา


เจอภัตตาคารโคคาและราเมนเทอิก่อน


ร้านดูจะหายากนิดนึง เพราะเป็นห้องแถวห้องเดียว และแถบนั้น บาร์ทั้งนั่นจ้า แนะนำถ้ามากลางคืน ควรมีเพื่อนร่วมอุดมการกินไปด้วยนะ ร้านอยู่ฝั่งขวานะ เป็นร้านไม้ไผ่ๆอ่ะ


ร้านนี้คนญี่ปุ่นมาทานเนอะ ขอบสูบบุหรี่หน้าร้านกัน ถ้ายึดจุดนี้อาจจะหาไม่ยากก็เป็นได้


Menu : ปลาทรายขาวชุปแป้งทอด ราดหัวไช้เท้าฝนกับซอสพอนซึ 279 บาท เป็น set menu นะเออ
Service : พนักงานบริการดี ยังไม่ทันสั่งอาหาร ถามว่ารับชาเย็นไหมคะ โอเคหล่ะสบายค่านํ้าไปแล้ว ตอนทานเสร็จมาถามว่า ทานร้านมีบริการกาแฟ มีแบบร้อนกับแบบเย็น รับแบบไหนดีคะ โอ้ยดีอ่ะ แต่ไม่ได้รับกาแฟนะ เพราะเราทานแล้วมีปัญหาเลยเลิกกินไป ไม่บวกค่าบริการเพิ่มด้วยนะ




หลังจากตอนต้นที่แอบเล่าไป มีบริการผ้าเย้นไว้เช็ดมือก่อนทานข้าวเนอะ มีนํ้าชาเขียวรีฟิลฟรีบริการตลอด มันดีต่อใจมากจริงๆ ณ จุดนี้ ชาเขียวแท้ๆไม่ผสมนํ้าตาล ไม่ขมมาก ทานได้เรื่อยๆ มีผักยำมาทานก่อนชุดทงคัตสึของเราจะมา บรรยากาศเหมือนเราหลงไปญี่ปุ่นเลย มีคนมาทานเยอะมาก คนญี่ปุ่นเยอะมากสุดๆ เซฟก็ชาวญี่ปุ่น บริการแบบญี่ปุ่นด้วย เซฟที่นี่ทำงานไว รอไม่นานก็ได้ทานหล่ะ


ปลาทรายขาวทอดกรอบร้อนๆมาแล้ววว กรอบนอก ชุ่มใน มีเลม่อนบีบแก้เลื่อน มีไซ้เท้าและวาซาบิไว้ผสมกับนํ้าจิ้มพอนสึ ที่สั่งคิดว่าน่าจะแก้เลื่อนได้บ้าง มีกะหลํ่าปลีซอยบางๆ น่าจะด้วยเครื่อง คนน่าจะไม่ได้บางแบบนี้ มีมันบดด้วย อร่อย ทานกับข้าวญี่ปุ่น ต้องทานร้อนๆจะได้ไม่เลี่ยนและอมนํ้ามัน ปลาให้มา 3 ตัวนั่นแล เขาให้หัวไว้เท้าบดมาเยอะมากกกก เอามาจิ้มซอส เราว่าตัวซอสเค็มไปอ่ะ เค็มจัดเลย แต่ยังดีที่มีเลม่อน ทานสลับๆงี้ มีนํ้าซุปมิโซะมาให้ด้วยกันฝืดคอ

ร้านนี้มีเพื่อนใน Facebook check-in เยอะ ติดอันดับของ wongnai แถมเพื่อนแนะนำมาอีก จะพลาดได้ไง
คะแนน : 4/5 เราไม่ใช่สายทงคัตสึ ยังเลี่ยนๆอยู่นิดหน่อย พอนสึเค็มไปมาก

ร้านที่สี่ Ramen Tei 



Location : ซอยธนิยะ เลยตึกธนิยะนิดนึง ร้านอยู่ฝั่งซ้าย เลยยูชิดายะไปหน่อย ร้านมืดๆใหญ่ๆ
Menu : ราเมนซุปเกลือ 230 บาท
Service : นํ้าชาฟรี ไม่มีบวกเพิ่ม



ด้วยความที่ร้านราเมนเทอิ ข้างนอกมืดมากกกกก เราเข้ามาซื้อของเดินเล่นที่ซอยสุขุมวิท 33/1 บ่อย ยังสงสัย ร้านนี้ขายอะไร ขายราเมนหรอ ทำไมมืดจัง ดังนั้นเราจึงคลายความสงสัย เมื่อเดินเข้าร้านสาขาซอยธนิยะ ข้างในสว่างมากกก มาถึงพนักงานถามว่าจะนั่งที่เคาท์เตอร์หรือโต๊ะ เรานั่งที่เคาท์เตอร์ เพราะจะได้เห็นเซฟทางร้านปรุงอาหารงี้ ร้านมีนํ้าชาจีนฟรี และผ้าเย็นด้วย บรรยากาศการทำครัวมีมาตรฐานแบบไทยๆ เซฟผัดซาฮังได้น่าทานมากฮือออ ราดหน้าก็ดูน่ากิน เห็นตอนลวกเส้นราเมงด้วยอะไรด้วย ร้านนี้เมนูจะออกจีนๆหน่อย มีผัดเต้าหู้แบบร้านเกี้ยวเมืองจีนด้วย เกี้ยวซ่าก็มีนะ เรียกได้ว่าดูเซฟทำเพลินเลยจ้า สักพักราเมนที่สั่งไปอยู่ตรงหน้าแล้ว


นํ้าซุปเกลือสีขาวใส ไม่มันมากจนเกินไป รสชาติเค็มนิดๆค่อนไปทางจืดเลย หมูชาชูให้มาสองชิ้น นุ่มอร่อย ผักมีหน่อไม้ ขิงดอง ผักดอง ยังไม่โดนเท่าไหร่ มีกระเทียมทอดโรยหน้า เส้นแบบจีนเลย เหลืองๆกลมๆ แข็งนิดๆ ทานหมดแล้วยังไม่อิ่มเลยอ่ะ ค่อนข้างเฉยมากสำหรับเมนูนี้อ่ะ

ร้านนี้เจ้แนะนำมา และมีหลายสาขา เช่น ซอยธนิยะ สีลมซอย 6 สุขุมุวิท 33/1 
คะแนน: 3/5 ยังไม่โดนง่ะ คราวหน้าลองสั่งเมนูเต้าหู้ผัดแบบร้านเกี้ยวจีนน่าจะเริ่ด

ร้านที่ห้า Uchidaya Ramen




Location : ซอยธนิยะ เลยตึกธนิยะนิดนึง ร้านอยู่ฝั่งซ้าย ใกล้ราเมนเทอิ
Menu :

  1. Red Ramen 230 บาท
  2. เกี้ยวซ่าทอด 100 บาท
Service : นํ้าเปล่าฟรี สบายอีกหล่ะ ไม่บวก vat เพิ่มด้วยนะ

ร้านมีเมนู signature อยู่สองตัว คือ black กับ red ตัว black เราว่าคล้ายๆกับกันหลายเจ้า เลยสั่งตัว red ไป ซึ่งสองตัวนี้มีหลาย level ของ topping เพิ่มหมู เพิ่มไข่งี้ แน่นอนว่าเราไปชิมหลายร้านในเดือนเดียว กระเป๋าตังค์แห้ง เลยเลือกแบบถูกสุดแล้วกัน




ราเมนแดงมาแล้วววววว มีซอสพริกของเขาอยู่ตรงกลาง พร้อมด้วยชาชูหนึ่งชิ้น เห็ดหูหนู ถั่วงอก ต้นหมอ และสาหร่าย เส้นเลือกแบบ medium รสชาติออกเผ็ดนิดๆ เค็มหน่อยๆ เส้นก็นิ่มกำลังดี เป็นเส้นกลมๆอีกเช่นเคย ทานเพลินมากๆ ไปๆมาๆหมูชาชูสุดนิ่มก็ละลายหายไปกับนํ้า -..- 


รู้ว่าทานราเมนแล้วไม่อิ่ม สั่งเกี๊ยวซ่าทอดมาเพิ่ม บอกเลยว่า มันดีงามมากๆ มาร้อนๆ ไส้หมูชุ่มฉํ่า เวลาทานระวังนิดนึงเดี๋ยวลวกปากเอาเนอะ แป้งบาง มีความกรอบที่กำลังดีเลยทีเดียว


ร้านนี้เซฟและพนักงานแต่งตัวรับเทศกาลเอามากๆ


ร้านนี้รุ่นพี่แนะนำมาฮะ
คะแนน : 3.5/5 ทำให้นึกถึงอิปุโดะ ที่รสชาติเทพกว่า ชาชูหนูหาย บริการยังไม่ดีเท่าร้านก่อนหน้านี้

ร้านแถม Ippudo Ramen


Location : central silom complex ชั้นใต้ดิน แต่เราไปกินที่ central embassy มา 
Menu :

  1. Shiromaru motoaji regular size 200 บาท
  2. ippudo hakata-style gyoza 99 บาท
  3. ชาเขียวเย็นรีฟิล 40 บาท
Service : เข้าร้านมาปุ๊ปยังกะอยู่ญี่ปุ่นอีกหล่ะ บริการดีน่ารัก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะไม่บวกค่าบริการเพิ่ม

มีอยู่วันนึงทำธุระแถวนั้น แล้วหาร้านข้าวทานไม่ได้ มีแต่ห้างแอสแบรสซี่ เลยคิดว่าเลือกร้านถูกสุดแล้วกัน เห็นว่าร้านนี้ได้ TV Champion 3 สมัย คิดว่าชามนึงมากสุดคงสองสามร้อย และได้รางวัลขนาดนี้ น่าจะคุ้มค่าเงิน เลยเดินเข้าไปทานร้านนี้ ซึ่งที่ central embassy อยู่ที่ชั้น 3 ใกล้บันไดเลื่อน




เข้ามาพนักงานก็ต้อนรับอย่างแข็งขัน เราสั่งตัว Shiromaru motoaji ไป เพราะว่าเป็นเมนู signature ของทางร้านที่ได้รางวัลมาด้วย มีให้เลือกระดับเส้นแน่นนอนเราเลือก normal ไป เส้นสีเหลืองกลมๆ จะแข็งแต่ก็ไม่แข็ง จะนิ่มแต่ก็ไม่นิ่ม คือเส้นกำลังดีเลยหล่ะ ทานกับชาชูชิ้นใหญ่ ที่นุ่มกำลังดี พร้อมด้วยเห็ดหูหมูที่กรุบกรอบ และถั่วงอก กับต้นหอม มีราดนํ้ามันพริกเผานิดนึง มีกระเทียมให้เราบดเอง พร้อมทั้งขิงดองให้เราใส่แก้เลี่ยน นํ้าซุปไม่แน่ใจว่าเป็นนํ้าซุปไก่หรือเปล่า ค่อนข้างมันแต่หอมอร่อย


เกี้ยวซ่า จริงๆเราได้มาฟรีจาก samsung galaxy gift เพราะเราสั่งราเมน regular size มา เราเลยบอกพี่พนักงานรับสิทธิ์เลยจ้าา มาร้อนๆ กรอบนอกนุ่มใน ไส้หมูฉํ่ามาก ใส่กะหลํ่าปลีและขิงพอหอม ตัวนํ้าจิ้มแปลกกว่าร้านอื่นๆ หอมนํ้ามันงาและนํ้ามันพริกเผาด้วย ทำให้นึกถึงร้านเกี้ยวเมืองจีนขึ้นมาเลย



คะแนน : 5/5 ชั้นจะติตรงไหนดีหว่า อร่อยเทพจนร้านอื่นจืดสนิท เทียบไม่ติดเลยทีเดียว คุ้มค่าคุ้มราคามาก
สาขาอื่นๆ : นอกจากสองสาขาด้านบน มีที่ emporium ชั้น 4 และ สาขาใหม่ไฟกระพริบ Terminal 21 ชั้นใต้ดิน

เรามารีวิวร้านอาหารญี่ปุ่นจากต้นตำรับมาจนครบแล้ว น่าทานทุกร้านเลยเนอะ
เมื่อกินอิ่ม หลับท้องตึง หนังตาหย่อน เอ้ยยย มีแรงมาทำงานต่อ

สวัสดีปีใหม่ 2560 นะคะ บล็อกนี้เนื้อหาจะเข้มข้นไปทาง developer มากขึ้นกว่าเดิมเนอะ 
แต่ไม่ทิ้งสาระอื่นๆด้วย

บล็อกตอนหน้าจะเป็นตอนอะไร ติดตามกันนะคะ :)

ป้ายกำกับ: