วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560

สิ่งที่ได้เรียนรู้ ในเถ้าแก่น้อย รุ่น 4 ตอนที่ 5 : เตรียมตัวไปเที่ยว เอ้ยย ไปเก็บข้อมูลพื้นที่จริงกันเถอะ

ก่อนที่เราจะไปลงพื้นที่สำรวจจริงนั้น จะต้องมีการบรีฟรายละเอียด ทั้งสถานที่ และเพื่อนร่วมทีม โดยเถ้าแก่น้อยปี 4 นั้น เราจะพักที่โรงแรมลองบีชชะอำ และแบ่งกลุ่มลงพื้นที่ ทั้งที่ชะอำ และหัวหิน


ป่านนี้เปิดแล้วมั้ง
ตอนเช้าจะมีการบรีฟข้อมูลจากอาจารย์จรินทร์ก่อน

20 มิถุนายน 2558 เตรียมความพร้อมเถ้าแก่น้อย Idea to Market Boot Camp โดยอาจารย์จรินทร์ รุจิเกียรติกำจร

Market Survey Research

- ที่ไปสำรวจร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านไก่ทอด ร้านกาแฟ ร้านข้าวแกง เพราะ มี factor น้อย จะทำร้านแบบ take away ก็ได้

- information -> imagination -> "Topic" -> location

location มี 2 แบบ คือ มีคนเดินผ่านที่มากพอ กับ ไม่มีคนผ่านแต่มี concept
ดังนั้น จึงต้อง นับ ด้วยกรรมวิธีต่างๆที่เหมาะสม

- กำหนดกำไรสุทธิที่อยากได้ต่อวัน/เดือน เช่นกาแฟเย็น 50 บาท กำไร 30 บาท อยากได้กำไร 3000 บาท ดังนั้นต้องขายให้ได้ 100 ถ้วย บางที่ใช้หลัก 10% ในการคำนวณหลังจากการนับ

**กำไรไม่ควรตํ่ากว่า 100000 บาท

- แบ่งคนทำงาน survey
• กำหนด location ในการ survey ไม่น้อยกว่า 3 จุด
• ห้าง kfc ร้านที่มีแบรนด์อยู่แล้ว นับคนแล้วใช้ได้เลย

1) นับคน :
• เวลานั้น มีคนผ่านเท่าไหร่ นับโดยประมาณการ 1 ชั่วโมงคูณจำนวนชั่วโมงที่เปิด หรือนับ 3 ชั่วโมงและเอาไปหารให้เหลือต่อ 1 ชั่วโมง
• รถอะไรก็แล้วแต่ที่ผ่าน ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไชค์ รถยนต์ รถตู้ รถทัวร์ นับเป็น 1 คน
• เอาจำนวนคนที่ได้ มาหารจำนวนร้าน

2) สัมภาษณ์ตัวอย่าง 97 คนเป็นอย่างน้อย :
• นับคนที่เต็มใจสัมภาษณ์

3) สำรวจคู่แข่ง :
• นับร้านในวงรัศมี 5-8 กิโลเมตร ในวงรัศมี จาก location ที่ต้องการ
• ดู location ในร้านมีอะไร ขายได้เท่าไหร่ กำไร ...
• สำรวจว่ามีเท่าไหร่ สภาพทั่วไปของร้าน (ราคา คุณภาพ ผู้คน) ประมาณการ (กินไปเท่าไหร่ กี่unit/วัน)

ดังนั้น สรุปมาว่า
1. เปิดร้านอะไร ที่ไหน : ร้านบิงซู นํ้าแข็งไสสไตล์เกาหลี
2. รูปแบบ ร้าน ราคา
3. กลยุทธ
4. concept



Critical Incident Technique (CIT) :
หา idea เพิ่มตั้งคำถาม คุยให้ได้ข้อมูลเบี้องต้น -> repeatability เกิดความซํ้าซากของข้อมูล จำนวนนึง -> แยก +,- จากคำตอบ -> นำจุดแตกต่างมาทำเป็น questionare

เมื่อเลกเชอร์ข้อมูล ทานข้าวเที่ยงให้สบายใจแล้ว พี่ๆจะแบ่งกลุ่มพวกเราออกเป็น 6 กลุ่ม และพวกเราอยู่กลุ่มสุดท้ายพอดี 555 บอกได้เลยว่าพวกเราสนิทกันพอสมควรและเข้ากันได้เร็ว เพราะกรุ๊ปไลน์พวกเราคุยเรื่องของกินล้วนๆ -..- เห้ยยยย ผิดๆคุยเรื่องงานกันก่อน มีการแบ่งหน้าที่กันไป พวกเราทำร้านบิงซู เนื่องจากน้องออมคนสวยได้เสนอไอเดียนี้ และเข้ากับที่อาจารย์พูดว่า หัวหินร้อนตลอดปี ดังนั้นต้องไปศึกษาหาข้อมูลว่าบิงซูคืออะไร มีปัญหาอะไร เช่น มาใหญ่มาแบบทุกคนในกลุ่มรุมกิน มีขนาดแบบกินคนเดียวไหม

เมื่อถึงวัน 27-29 มิถุนายน 2558 เราก็ได้เวลาออกไปเที่ยว เอ้ยยยย ไปเก็บข้อมูล มีพี่เลี้ยงที่ดูแลกลุ่มเรา คือ พี่เกียร์กับพี่แซม มีรถตู้สองคัน รับคนที่ software park คันนึง และ รับรายทางตามแถบฝั่งธนคันนึง จริงๆรับจาก software park นั่นแหละ แต่ออกก่อนอีกคัน

มาถึงโรงแรม เรา check-in เอาป้ายห้อยกระเป๋า ที่พลาดคือลืมเอาของบางอย่างออกมาจากกระเป๋า เขาให้เรารวมตัวกันที่ล็อบบี้โรงแรม ไม่ได้ขึ้นห้องไปเก็บของ ได้ขี้นไปตอนจะนอนแล้วนั่นแหละ

รูปนี้ได้ถ่ายตอนช่วงท้ายๆหล่ะ
จากนั้นกินข้าว แบ่งทีม ทำงานรัวๆ

อันนี้ตอนขามา
อาหารกลางวันวันแรก


ตอนแรกไปสำรวจพื้นที่กันก่อน ก็ถนนเส้นแถวนั้นทั้งสายเลย ทางหัวหิน ตอนแรกว่าจะแบ่งกันสามจุด มีตรงทางรถไฟด้านหลังด้วย ไปๆมาๆเหลือแค่สอง คือ เพลินวาน และ หัวหินมาร์เกตวิลเลจ



จะบอกว่าทีมที่ลงเพลินวานทำงานหนุกหนานมาก เรื่องฮาๆเยอะ อันนี้ฟังเขาเล่ามา
ตัวเราอยู่หัวหินมาร์เกตวิลเลจ บอกเลยว่าเราพอจะมีคำถามในหัว ไม่ค่อยได้ทำการบ้านอย่างจริงจัง แอบลำบากน้องๆในทีมเหมือนกัน ได้กินไอติมไปหลายร้านเลย แบบซื้อแล้วถามงี้ ตอนเราไป low season พอดี มิน่า ไม่มีคนเท่าไหร่เลย คนแถวนั้นบางร้านน่าจะไม่ซื้อกินด้วย ในนั้นอีกมีร้านขายอาหารต่างชาติโดยเฉพาะเลย


กลับถึงที่พัก ก็เก็บรายละเอียดข้อมูลต่างๆนานา ระหว่างนั้นก็มีกล้องมาถ่ายทำพวกเรา และพอรายการออกอากาศ ทุกคนในกลุ่มออกทีวีกันหมดเลย เย้

ทำงานดึกๆก็หิวกัน เลยมีขนมมาให้ พร้อมนํ้าให้บริการ


จากนั้นเช้าอีกวัน...

ผิดๆ ตอนกลางคืนมีการอาบนํ้าและมาทำงานนิดหน่อยที่ห้องเพื่อนเรา อัดกันเต็มห้อง ทำงานกันสักพักก็นอนเพื่อตื่นมาทำงานกันอีกตอนเช้า บางคนไม่นอนก็มี ตอนเช้าเลยปลุกอะไรกันยากนิดนึง


อาหารเช้าก่อนที่จะมาสุ่มหัวทำงานกันอีกวัน มีการจับสลากทีมพรีเซนต์ ได้ทีมสุดท้ายจ้า เย้



พรีเซนต์อะไรกันเสร็จ ก็มีให้ไปพักชั่วโมงนึงมั้ง พวกเราไปทะเล ถ่ายรูปอะไรกันไป รูปมาจากกรุ๊ปไลน์เยอะแยะเลย แต่ขอไม่ลงนะ 55555


จากนั้นมีประกาศผล ได้รางวัลทุกทีม และกิจกรรมสัมพันธ์


เช้าวันรุ่งขึ้นชิวๆเลย ออกกำลังกายที่ฟิตเนต ไปกินข้าวเช้า เม้าท์มอย และกลับกรุงเทพ มีแวะร้านของฝากและถ่ายรูปกันอีก รู้สึกว่างานนี้เราก็พลาดไปเยอะเช่นกัน



ลากันไปด้วยซาโตรินี่ ที่ได้แต่ผ่าน ผ่าน และผ่าน

ป้ายกำกับ:

วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2560

[Review] ฉันก็แค่บะหมี่ ที่เธอต้องกินในบางครั้ง by AnSungTangMyun


สวัสดีวันใกล้สิ้นเดือนค่ะทุกคน วันสำคัญอีกวันหนึ่งของมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ก็คือวันเงินเดือนออกเนอะ เงินเดือนแต่ละคนก็มีเหตุผลการใช้จ่ายต่างกันไป จนถึงสิ้นเดือน เหมือนสิ้นใจ จะกินข้าวนอกบ้านก็กลัวจะกระเป๋าแบนไปมากกว่านี้ เมนูสิ้นเดือนของแต่ละคนในใจ คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และบะหมี่เกาหลีอาจจะเป็นตัวเลือกหนึ่งของหลายๆคน ยิ่งอยู่กันหลายๆคน ยิ่งคุ้มค่ะ เพราะห่อนึงมีนํ้าหนักที่มากกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบไทยๆ และมีรสชาติที่เผ็ดและแซ่บมากกกก นึกถึงซี่รีส์เกาหลีสิคะ ที่เขากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกัน ต้มเสร็จ ยกมา คนนึงเอาหม้อไป อีกคนเอาฝาหม้อ จะพบเห็นได้บ่อยตามซี่รีสเกาหลีนะ ข้างล่างคือภาพประกอบพอที่จะหามาได้

เจอจาก http://pa1.narvii.com/6052/b9f2d0f96bb8052d3914bb950b2d2b44dcff9738_hq.gif
ฉากที่ยุนซอนเล่นเป็นองค์ชายหลงยุค มน rooftop prince แล้วนางเอกทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาให้ทาน พระเอกฟินมาก มันอร่อย 555
ดังนั้นการที่เราจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไม่ว่าจะของไทย หรือเกาหลีก็ตาม ก็ไม่ควรกินแบบต้มเส้นเปล่าๆเนาะ ควรจะต้องมีสารอาหารอื่นๆเติมเต็มให้ครบ 5 หมู่ วันนี้เราจะมาแนะนำเมนูบะหมี่เกาหลี ชื่อว่า "เป็นทุกอย่าง ในช่วงสิ้นเดือน" 

ส่วนประกอบมีดังนี้
1. บะหมี่เกาหลี Spicy Miso Noodle Soup AnSungTangMyun จาก Nongshim ของแบบนี้ต้องซื้อตุนค่ะ ซื้อ 5 pack ถูกกว่า 
2. เต้าหู้ไข่ตรานางพยาบาล 1 หลอด
3. ผักกวางตุ้ง แถวบ้านเราขายถูกนะ แบบในรูปนี้ 6-7 ต้น 10 บาทจ้า อันนี้เก็บไว้กินมื้ออื่นต่อไปได้อีก


4. และ ไก่ย่างที่เหลือจากมื้ออื่นๆ บอกเลยว่า เป็นเมนูเคลียร์ตู้เย็นยามสิ้นเดือนที่แท้จริง


ส่วนผสมที่ใส่บะหมี่เกาหลีนั้น สามารถใส่อะไรก็ได้ตามใจชอบของเราเนาะ ไม่ต้องตามนี้ก็ได้

มาแนะนำบะหมี่เกาหลีซะหน่อย เจ้าตัวบะหมี่เกาหลีนี้ เป็นรส Spicy Miso นะ เป็นรสเหมือนซุปสาหร่ายในร้านอาหารญี่ปุ่น มีความเค็มของเต้าเจียว และความเผ็ดนิดๆของพริก หน้าตา pack 5 จะเป็นอย่างนี้



ด้านหลังบอกส่วนผสมและข้อมูลโภชนาการ ซองนึงหนัก 125 กรัม หรือ ขีดกว่าๆนั่นเอง โหว ซองนึงมันเยอะมากจริงๆ


ถ้าซื้อซองเดี่ยวเดียวๆจะเป็นแบบนี้


มาเริ่มทำกันหล่ะนะ เริ่มที่แกะซองก่อน ในซองมีเส้นบะหมี่ และผงปรุงรส เราใช้ชามอีเกียใบใหญ่ใส่ โอโหววว ตัวเส้นบะหมี่ทั้งหนา ทั้งหนัก เลยทีเดียว คาดว่าต้องเสร็จคงมากพอที่จะกินกันทั้งบ้านได้


ฉีกซองเครื่องปรุง ซึ่งเป็นซองเดียวโดดๆเลย เป็นผงสีส้ม หอมเต้าเจียวมิโซะนิดๆ


เทนํ้าลงไปให้พอท่วม แบบยังไม่มิดมาก กลัวยกเข้าเวฟไม่ไหว
วิธีทำจริงๆคือใส่นํ้า 450 ml ไปในหม้อ แล้วนำบะหมี่เกาหลีของเราไปต้มประมาณ 4-5 นาที
แต่ในกรณีที่อยู่คอนโด หอพัก ออฟฟิค ไม่มีเตาทำกับข้าว ใช้เวฟก็ได้นะ เรามีวิธี


เทลงไปประมาณนี้ พบว่าผงมีการละลายไปกับนํ้า และเห็นผักเขียวๆนิดหน่อย


จากนั้นนำไปเข้าไมโครเวฟ เราจะทำการเวฟ 2 รอบด้วยกัน
รอบแรกเวฟแบบจัดเต็มนานๆ จัดไป 4 นาที


ระหว่างนั้นเตรียมส่วนผสมอื่นๆที่ใส่ในบะหมี่เกาหลี หั่นผักกับเต้าหู้ไข่รอ รวมถึงฉีกไก่ย่างของเรารอด้วย


เมื่อครบ 4 นาทีแรก เส้นด้านบนยังแข็งๆ ยังไม่นิ่ม ยังไม่สุก จัดการเอาตะเกียบพลิกบะหมี่เกาหลีของเรา จากนั้น นำผักกวางตุ้งของเราพร้อมเต้าหู้ไข่ไว้ด้านบน และเวฟต่ออีก 2 นาที


เมื่อครบเวลา เปิดดู บะหมี่ของเราสุกหมดทุดด้านแล้ว มาตกแต่งชามบะหมี่เกาหลีของเราด้วยไก่ย่างในตู้เย็นของเรา หน้าตาน่าทานไหมหล่ะ


ชิมรสชาติกันดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไร

ตัวเส้นหนานุ่มมาก เรียกได้ว่ามีเนื้อมีหนังกันเลยทีเดียว หนาๆแน่นๆอวบๆ
ตัวนํ้าซุป เค็ม หอมเต้าเจี้ยว เหมาะกับคนไม่ทานเผ็ด หรือทานเผ็ดได้น้อยมาก เพราะมันแทบจะไม่เผ็ดเลย เหมือนใส่พริกไปเฉยๆอ่ะ
ปริมาณของเส้น ทานคนเดียวไม่หมดค่ะ มันเยอะมากเลยสำหรับคนเดียว สองคนกำลังพอดี ถ้าต้มแล้วแบ่งกันแบบซีรีส์เกาหลี ปริมาณแบบนี้คือเหมาะมากกกก

ส่วนตัวให้คะแนน 7/10 นะ คือ เส้นหนาดีงามตามมาตรฐานบะหมี่เกาหลีอยู่แล้ว แต่รสนี้มันเค็ม ไม่แซ่บเลย ชอบบะหมี่เกาหลีแบบแซ่บๆมากกว่าง่ะ


ถ้าใครสนใจ สามารถซื้อหากันได้นะ 5 pack 185 บาท ห่อละ 37 บาท


สำหรับตอนนี้ขอทานเมนู "เป็นทุกอย่าง ในช่วงสิ้นเดือน" กันก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ
.........


ป้ายกำกับ:

วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2560

[Review] มาทำความสะอาดห้องนํ้าแบบง่ายๆ ด้วย Hafele’s brightener and protection agent


สวัสดีค่ะทุกท่าน การทำความสะอาดบ้านก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเนาะ โดยเฉพาะห้องนํ้า ที่มีคราบนํ้าเอย คราบยาสีฟันเอย ที่ก็อกนํ้า กระจกห้องนํ้า จะหาอะไรง่ายๆเซ็คก็ยากเหลือเกิน ที่จะทำให้สะอาด เพราะลองมาหลายวิธี ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องหรือเปล่า วันนี้เรามีตัวช่วย แท่น แท่น "Hafele’s brightener and protection agent" หรือ "เฮเฟเล่ ไบรท์เทนเนอร์ ชุดทำความสะอาดสุขภัณฑ์" มาดูกันดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไร

ด้านนอกกล่อง มีตราเฮเฟเล่ บอกชัดเจนเลยว่าคืออะไร

ด้านหลังกล่อง ผลิตจากเยอรมันเชียวคุณ
ตัวกล่องเป็นกล่องกระดาษ ซีลพลาสติกอย่างดีเลย หน้ากล่องบอกชัดเจน คือ เป็นนํ้ายาปกป้องผิวสุขภัณฑ์ และทำความสะอาดสุขภัณฑ์ ครีมมีขนาด 250 ml

ถ่ายมาให้ดูอีกสักสองมุม ด้านนอกกล่องออกแบบมาอย่างเรียบง่ายเชียว



ตัวกล่องซีลพลาสติกอย่างดีเลย นํ้าหนักพอควร
แกะสิครัส รออะไรอยู่ ตัวฝากล่องแน่นมาก แกะแทบไม่ออกเลย ต้องใช้เล็บจิก -..-
ดึงลิ้นสีเทาออกก่อน แล้วค่อยเปิกฝากล่องขึ้นมา


ข้อมูลเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและปกป้องพื้นผิว เฮเฟเล่ สามารถใช้ดีกับพื้นผิว โครมเมี่ยม, เหล็ก, กระจก,
และเซรามิก สารทำความสะอาดจะทำละลายคราบฝังแน่น และคราบน้ำโดยไม่ทำลายพื้นผิว และยังสร้างชั้นปกป้องคราบสกปรกฝังแน่น ช่วยให้สุขภัณฑ์ของท่านเงางามไปอีกนาน ขอแนะนำให้ใช้ฟองน้ำ
และผ้าไมโครไฟเบอร์ในการทำความสะอาดเพื่อลดการเกิดรอยบนพื้นผิว

แท๊นนน แท่นนน แกะกล่องออกมาแล้ว ประกอบไปด้วย
1) นํ้ายาทำความสะอาดสุขภัณฑ์ของเฮเฟเร่
2) ฟองนํ้า ด้านนอกเป็นผ้าโพลีเอสเตอร์สีนํ้าเงิน
3) ผ้าโพลีเอสเตอร์สีนํ้าเงินผืนใหญ่


ตัวขวดมีปริมาณ 250 ml. จับแล้วพอดีมือเล็กๆแหะ


มีบอกวิธีใช้และข้อควรระวังด้วยนะ

วิธีการใช้
1. เทน้ำยาไบรท์เทนเนอร์ น้ำยาทำความสะอาดสุขภัณฑ์ ของเฮเฟเล่ ลงบนสุขภัณฑ์ ก็อกน้ำ หรือกระจกห้องน้ำ
2. เช็ดให้ทั่วด้วยฟองน้ำ คราบสกปรกจะค่อยๆ ละลาย
3. แล้วเช็ดคราบน้ำยาด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ เพียงเท่านี้ ก็จะได้ห้องน้ำที่สะอาดเหมือนใหม่ ไร้ปัญหาคราบน้ำเกาะ

สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาดและปกป้อง พื้นผิว ของเฮเฟเล่ ได้ทุกสัปดาห์ เพื่อความสวยงาม และการปกป้องผิวสุขภัณฑ์จากคราบสกปรก ซึ่งน้ำยาตัวนี้ จะใช้ได้ดีกับวัสดุโครเมียม และเหล็ก

ข้อควรระวัง และการเก็บรักษา
- ควรเก็บรักษาให้ห่างจากมือเด็ก (จริงๆน่าจะมือสัตว์เลี้ยงด้วยนะ)
- หลังจากการใช้งานควรล้างมือให้สะอาด
- ควรเก็บไว้ที่อากาศถ่ายเทและพ้นจากแสงแดดหรือความร้อน
- หากเข้าตาให้ล้างด้วยน้ำสะอาดเป็นเวลานาน และหากเกิดการระคายเคืองให้รีบพบแพทย์


บอกด้วยว่าในกล่องมีอะไรบ้าง


มาทดลองใช้กันดีกว่า
เรามีจุดทดลองด้วยกัน 2 จุด ได้แก่
1. อ่างล้างหน้า มีก็อกนํ้า และกระจกเงาในห้องนํ้า
2. ฝักบัว

มาที่จุดแรก มีก็อกน้ำ กระจกเงา และอ่างล้างหน้า มีคราบน้ำและรอยยาสีฟันกระจายตัวในที่ต่างๆ



เริ่มแรก เทนํ้ายาลงไปก่อน โดยกดที่ฝาเพื่อเปิดฝา และบีบขวดนิดหน่อยลงไปในสุขภัณฑ์ที่เราจะขัดถู



ต่อมานำฟองนํ้าที่มีอยู่ในกล่อง เซ็ด คราบน้ำคราบยาสีฟัน เริ่มจางหาย


เซ็ดซ้ำด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ เงาวิ้งสะอาดเอี่ยม


มาดูผลที่ได้กันดีกว่า ผลที่ได้ คราบนํ้าที่ก็อกนํ้าหายไปหมด เงาวิ้งมาก ส่วนอ้างล้างหน้านี่บอกได้เลย เอาขวดเฮเฟเล่ไปวาง ขวดลื่นจ้าาาาาา ถือว่าเยี่ยมเลยย


เปรียบเทียบกันดีกว่า ว่าต่างกันขนาดไหนนน


ถ้าดูรูปแล้วยังงงๆ มาดูการสาธิตการใช้น้องเฮเฟเล่ ในวิดีโอกันดีกว่าว่าจะวิ้งขนาดไหน


จุดที่สอง ฝักบัว บอกเลยว่างานยากพอควร ถ่ายวิดีโอยากมาก แถมมืดนิดๆด้วย
ไม่เป็นการเสียเวลา ดูเปรียบเทียบเลยดีกว่าาาาาา



ที่วางสบู่คราบนํ้าหายเกลี้ยง แต่ฝักบัวยังมีคราบอยู่ เนื่องจากฝักบัวมีนํ้าไหลนิดๆตลอดเวลา ทำให้ตัวครีมไม่สามารถทำความสะอาดคราบนํ้าได้ทั้งหมด


สุดท้ายทำความสะอาดเสร็จ ล้างมือด้วยนะ

หลังการใช้รู้สึกอย่างไรบ้างค่ะ //จ่อไมค์ถามตัวเอง
- กล่องแข็งแรง แต่แกะยากไปนิดนึง
- ทำความสะอาดได้ดี ทั้งคราบนํ้าที่ก็อกน้ำ ที่วางสบู่ ราวฝักบัว คราบยาสีฟันที่อ่างล้างหน้าและกระจก ซึ่งเหมาะกับพื้นผิวที่แห้ง ส่วนฝักบัวนั้น มีนํ้าไหลน้อยๆตลอด คือรอยนํ้าเปียกตลอด มันเลยไม่สะอาดทั้งหมดตามที่หวังไว้
- ตัวฟองนํ้าเข้าซอกซอนซอกหลีบของก็อกนํ้ายากอยู่ ดีที่ตอนมามีแอบพับๆ ก็ถูๆไปนะ
- แม่บอกก็ดูสะอาดขึ้นนะ เพราะปกติไม่ค่อยเซ็ดกันเท่าไหร่ เอาจริงๆเราอาจจะเซ็ดไม่ถูกวิธีมากกว่ามั้ง มีเฮเฟเล่ตัวนี้ เบาแรง
- ราคาเอาเรื่องพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับคุณสมบัติและปริมาณแล้ว น่าจะใช้ได้นานและคุ้มเงินอยู่

สรุป เราให้คะแนน 8/10 จ้าาาา

เก็บตกด้วยเช้าวันต่อมา ก็มีคราบนํ้าใหม่มา แต่เซ็คออกแล้วก็หายนะ ตัวนํ้ายามีการเคลือบตัวสุขภัณฑ์ ถือว่าปกป้องผิวสุขภัณฑ์ได้อีกทางหนึ่ง คือเวลาปาดคราบนํ้าออก มันจะมีความของนํ้ายาที่เคลือบผิวไว้อยู่


สุดท้ายนี้มีโปรโมชั่นมาฝากกันจ้า

ชุดทำความสะอาดสุขภัณฑ์ Hafele’s brightener and protection agent ราคาขายปกติ 525 บาท
ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 มิถุนายน 2560 ราคาพิเศษเพียง 399 บาท

สามารถทดลองและหาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของบริษัทฯ ได้ทั่วประเทศ
ตามในเว็บไซต์นี้ https://www.hafelethailand.com/

ช่วงเวลาทำการของทางร้านนะ
วันจันทร์ - ศุกร์ : 8:00 - 17:15 น.
วันเสาร์ : 9:00 - 16:00 น.

ขอขอบคุณ Revu และ เฮเฟเล่ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มาให้รีวิวในครั้งนี้ค่ะ
สำหรับวันนี้ขอลากันไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ

.......

ป้ายกำกับ: