วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560

เป็น Blogger อย่างง่ายโดยใช้มือถือทุ่นแรง และ case study ต่างๆจากการเขียนบล็อก


สวัสดีทุกท่าน เนื่องด้วยเราเป็น blogger ขาประจำของ innocop เขียนบล็อกเกี่ยวกับการ workshop อยู่ตลอด พี่ๆหลายๆท่านก็อยากทราบว่าเขียนบล็อกอย่างไร ใช้อะไรเขียน เราจะรวบรวมพร้อม case study ของเราเองด้วยหล่ะ และที่ฟังใจก็มีให้แต่ละคนมาพูด เลยเตรียมเรื่องนี้ เพื่อให้ทีมอื่นๆรู้จักเรามากขึ้น

เพราะอะไรถึงเขียน
- กันลืม
- sharing
- give and take
- หาเงิน ซึ่งไม่เคยได้เลย 555TT

สำหรับมือใหม่ ใช้ medium ง่ายสุด แอปเดียว ที่เดียวจบ โอ้เย้ ใส่รูปก็ง่าย ใส่ gist ก็ดีงาม สำหรับสาย dev นะยูว สายอื่นๆก็ได้เช่นกัน ตัว UI ใน web กับ app เหมือนกัน แทบไม่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่

ปล. เราได้เขียน medium ของ fungjai ติดตามได้เร็วๆนี้เน้อออ



ตัดกลับมาที่ข้าพเจ้า ที่ยังใช้ blogger อยู่ และมีแพลนจะจดโดเมนด้วยในอนาคตกันดีกว่า

ใช้แอปอะไร

- chrome เปิดหน้าเว็บ blogger เพราะแอป blogger ห่วยมากจริงๆ จัดวางอะไรไม่ค่อยได้เลย ยิ่ง iOS แปปเดียวแอปดับเลยจ้า ที่เขียนไว้หายหมดเลย แต่จริงๆสุดท้ายจัดวางที่หน้าคอมอยู่ดี จบหน้าคอม ไม่ได้จบหน้ามือถือ


- note ของ iOS และ memo ในมือถือซัมซุง อันนี้เอาไว้เขียน เอาไว้จดหน้างาน ตอนไม่มีเน็ท ไม่ได้เอาอะไรมาจด แต่ก็ต้องล้าง format ใหม่ใน blogger และค่อนข้างเสียเวลาในการจัดหน้า
- google keep บอกเลยว่าไม่ว่าจะไปเขียนที่ device ไหน มันจะ sync ข้อมูลไว้ตลอดเลย เขียนเสร็จก็อปใส่ blogger เลย ง่ายดี ล้าง format ก็ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดหน้ามาก


- google photo บล็อกก็ต้องมีภาพประกอบเนอะ ถ้าเป็นรูปถ่ายไม่ว่าจาก iOS หรือ android ก็ต้อง backup ไว้ที่ cloud ดังนั้นดึงจากตรงนี้ลงบล็อกได้เลย ไม่ต้องอัพภาพจากมือถือเพิ่ม

ยังไงในส่วนบล็อกภาค dev ก็ต้องอัพภาพหน้าจอผ่านคอมอยู่ดี
- ถ้ามี mac ก็ capture ตามที่เราต้องการได้เลย ไม่ต้องไปตัดเอง กด command + shift + 4 แล้วลากเอา ถ้าอัดหน้าจอก็ใช้ quicktime player ค่อนข้างสบายมากเลย

- ส่วน windows กด prtSrc จะอัพลง dropbox และไป crop ภาพเอาที่ photoscape

โปรแกรมอื่นๆที่ใช้ในคอมเราจะใช้โปรแกรมที่ฟรี เพราะไม่อยากใช้เถื่อนด้วย ดังนี้


- paint.net ใช้แทน photoshop ทำ layer ได้เหมือนกัน


- SketchBook ไว้วาดรูป เราลงหมดทั้งคอม มือถือ ไอแพด

ในส่วนของวิดีโอหล่ะ
- เราก็ใช้มือถือหรือไอแพดอัด ซึ่งไฟล์มัน HD อยู่แล้ว และไปตัดวิดีโอที่ iMovie สามารถใส่เสียง ตัวหนังสือ ตัดเสร็จ เข้า youtube ได้เลย อันนี้จบหน้าไอแพดได้เลย
- ถ้าอัดวิดีโอหน้าจอ เคยใช้ camtasia studio นะ ถ้าง่ายสุด คือ จาก microsoft powerpoint แต่ถ้าจะรวมคลิปก็ใช้อย่างอื่นเอา ซึ่งก็กำลังหาอยู่นะ จริงๆอัดบน youtube เป็นตอนๆแล้วค่อยมารวมคลิปเอาก่อน publish ก็โอเคนะ

เขียนอะไรบ้าง
1) สาย dev


- Android development พยายามหยิบมาเขียนเรื่อยๆนะ รวมถึง firebase ด้วย เพราะต้องใช้ร่วมกัน ในสัดส่วน dev จะเขียนอันนี้มากสุด
- Web development มีบ้าง เว็บ portfolio ก็มี อย่างน้อย front end เราควรทำได้บ้าง
- python ช่วงนี้งดนานหน่อย อาจจะเขียนเรื่อง line bot ได้อย่างเดียว ถ้ามีเวลาทำนะ
- workshop event keynote ต่างๆ ถ้าได้ไป จดแน่นอนจ้าาาา

2) สาย review


- มีรับจาก revu มาเขียน จริงๆคือมีเพื่อนเขียน review ของจากที่นี่ พอสมัครได้ของ คือยาวเลย ได้เรื่อยๆอยู่ ซึ่งบล็อกปลายปีจะสรุปอีกทีว่าได้ของอะไรไป review บ้าง ช่วงนี้ซาลงแล้วหล่ะนะ
- review ของเอง อันนี้ตามอารมณ์ ไว้กันบล็อกว่าง
- event ถ้าได้ไป จดทุกงานแน่นอนจ้าาาา เอ๊ะ อันนี้เรียกว่า review เปล่านะ 555

3) สายอาหาร


- จะพยายามเขียนตามย่าน ตามที่ พอแต่เงินจะอำนวย
- ส่วนใหญ่ลง IG มากกว่า ตามได้ที่ @mikkipastel นะเอออออ
- บางทีจะรีวิวเก็บไว้ที่ wongnai ด้วย เพิ่มเติมอ่านที่นี่เลย
- บางทีก็ลองทำอาหารกินเองก็มีนะเออ

ทำไมต้องเขียนบล็อกตอนนั้นๆหล่ะ
- พยายามเขียนเรื่องที่ชาวบ้านไม่เขียน รวมถึงอันที่คนไทยไม่ค่อยเขียนก็พยายามทำความเข้าใจก่อนค่อยเขียน เผื่อคน search จะได้อ่านของเรา อะไรงี้ คือมาช่วยคนที่เจอปัญหาที่เราเคยเจอไง 
เช่น firebase + travis ci มีแต่บล็อกต่างประเทศ และใน youtube official เท่านั้นที่มี

- หาจุดต่างในเรื่องเดียวกันว่าประเด็นอะไรหายไปบ้าง เราก็จะตามเก็บ ซึ่งส่วนใหญ่คือเราเจอปัญหาที่เขาไม่ได้เขียนไว้ 
เช่น line chatbot

- ไป event ไหน รีบเขียนให้ไวก่อนกระแสจะซาลง ยังไงคนที่ไม่ได้ไปรออ่านอยู่แล้วแหละ ถ้างานมีหลายรอบ เราไปรอบแรกๆ บล็อกเราก็จะเป็นจุดที่ให้คนที่สนใจงานนั้นได้รับข้อมูล 
เช่น open data, google ignite, pokemon

- ได้รับเลือกจาก revu ให้เป็น reviwer ใน campeign นั้นๆ

Case study

1. Curel



เป็นงานเขียนรีวิวครีมกันแดดจากทาง curel และทางผลิตภัณฑ์ได้แชร์ไปหน้าเพจ คนเข้าไปดูเยอะมาก และเกิดปรากฎการณ์ประหลาดขึ้น คือคนเข้าไปอ่าน content ของปี 2017 เยอะมาก เป็นหมื่นๆเลย และผู้ชมส่วนใหญ่มาจากสิงคโปร ซึ่งเราหาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไร

url : https://www.facebook.com/Curelthailand/posts/1921164141462697

2. Open data



งานนี้งานเราได้ไปแสดงด้วย เลยจด session มา ค่อนข้างยาก เพราะพูดกันค่อนข้างไว จดไม่ทันด้วย ศัพท์บางอย่างมีงงๆบ้าง เรานำไปแชร์ในกรุ๊ป opendatath และทางเพจ ... ได้แชร์เนื้อหาออกไปด้วย แต่งานนี้มีเราเขียนบล็อกคนเดียวเลยแหะ

url : https://www.facebook.com/groups/OpenDataInTh/permalink/1306451556067588/

3. งาน Bangkok urban hack day + walkathon + Pokemon

งาน pokemon คือเป็นงานแรกที่พิคาจูออกงานเมื่อหลายปีมาแล้ว ปัจจุบันคือนางออกงานบ่อยอยู่นะ ตามไปกอดนางได้



งาน Bangkok Urban Hack Day เราได้โพสในกรุ๊ปที่ทุกคนร่วมงาน และมีสตาฟได้เอาไปแชร์ บอกว่าเขียนละเอียดมาก และก็เป็น feedback กลับไปให้ผู้จัดงานด้วย เสียดายที่ดันไม่ได้แคปตอนที่หลายๆท่านแชร์มา หาใน facebook ไม่เจอเลย ถ้าแชร์ public ถึงจะเห็น

งาน walkathon เราไปแชร์ในกรุ๊ปไลน์ของ NIA-DEI แล้วไปถึงผู้ใหญ่ระกับสูงด้วย จริงๆงานนี้เป็นงานแรกที่ NIA จัดในลักษณะนี้ ซึ่งเดี๋ยวววว เราก็คงได้เห็นอีกแหละ

url : https://www.facebook.com/groups/healthstartupthailand/permalink/1147209248651213/

4. Kotlin
การนำบทความสาย dev ไปแชร์ในกรุ๊ป developer เลยมีคนเข้าไปอ่าน ถือเป็นช่องทางเผยแพร่บล็อกเราอีกทาง และได้รับ featback จากคนอ่านโดยตรงด้วย และงานนี้ เราได้แชร์ทุกกรุ๊ปที่เกี่ยวข้อง 3 groups ด้วยกัน ยอด like + share ค่อนข้างดีเลย คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ด้วย คนอ่าน 1000+ ใน 24 ชั่วโมงเพราะแบบนี้นี่แหละ


ปล ก่อนหน้าได้แชร์บทความที่เขียนในกรุ๊ป developer เช่น Travis ci + firebase หรือ เขียน C# แบบ MVVM ก็ได้คุยกับ developer บางท่านในคอมเมนท์นิดหน่อย

5. Google ignite
เนื่องจากค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับ google ignite และส่วนใหญ่พูดแบบรวมๆ ไม่ได้บอกว่าเราต้องเรียนอะไรบ้าง ใครสอน ทำไมเรียนสองวันแล้วได้เซอร์เลย เราจึงบันทึกทุกอย่าง อย่างละเอียด เพื่อให้คนที่สนใจสาย digital marketing ได้ตัดสินใจ คนที่สนใจเรื่อง digital marketing ก็ได้อ่านด้วย เพราะที่เขาสอนก็เป็นการปูพื้นฐานเพื่อนำไปใช้ได้จริง

และด้วยเราเองเคยไป workshop ก่อนหน้านี้ครั้งนึง เลยมีเนื้อหาตอนนึงในบล็อกอยู่แล้ว
บังเอิญเจอน้องคนนึงไปอบรมแล้วอ้างอิงบล็อกเราด้วย ก็ขอบคุณมากๆนะคะ

url : https://www.facebook.com/sanowwy/posts/10213391843975680

6. Proposal nia



เนื่องจากตอนนั้น เราเรียนหลักสูตรทางไกลการจัดการนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการ และมันจะมีคล้ายๆโปรเจกจบ นั่นคือการส่ง proposal เสนอโครงการให้อาจารย์ที่ปรึกษานั่นเอง เลยเก็บเกี่ยวไปเต็มที่ และเขียนบล็อกแชร์ให้ในกรุ๊ปไลน์คนเข้า workshop นี้ กลายเป็นที่โด่งดังของพี่ๆ NIA เลย จำเราได้เพราะตรงนี้ และยังทำให้สนิทกันกับพี่ๆ NIA เอย พี่ๆเพื่อนๆที่เรียนด้วยกัน ทั้งรุ่นเดียวกันและต่างรุ่น และได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันอีกด้วย

7. BRT
มีใครรู้จักไหมเอ่ย ว่าคืออะไร
ความเห็นเรา คือ คนไม่รู้จักว่า BRT คืออะไร ไปไหนได้บ้าง เลยเขียนขึ้นมา เพราะเราเองคงมีโอกาสขึ้นไม่บ่อย หลังจากเขียนบล็อกถึงตอนนี้ ขึ้นแค่ 2 ครั้งเองจ้า ราคาถูกมาก ใช้ rabbit ก็ได้ ตอนแรกคนอ่านไม่เยอะหรอก แต่พอมาดูสถิติทั้งหมดพบว่า เยอะเป็นอันดับต้นๆเลย บางทีเข้าไป check สถิติ มีคนค้นหาเกี่ยวกับ brt แล้วเจอบล็อกเรา อารมณ์เป็นบล็อกที่สร้าง passive income ให้คนหลงมาอ่านบล็อกได้เป็นอย่างดี

รวมอันแป้กๆ เช่น
 - ดูดคลิป facebook โดยใช้ web browser ในมือถือแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นภาคต่อจากการดูดคลิปใน facebook ในช่วงที่มี A Look Back ที่เราได้เขียนส่งในคอมพิวเตอร์ทูเดย์ด้วย เนื่องจากเวอร์ชั่นใหม่ๆมันดูดคลิปเก็บไม่ได้ เลยลองอันนี้ดู ปรากฏว่าเงียบมาก
 - งานของโค้กที่จัดขึ้นที่ Emquartier ที่ใกล้ที่ทำงานเก่าเรา เห็นสื่อมาถ่ายอะไรงี้เยอะ งานก็โอเคอยู่นะ คิดว่าเราเขียนลงบล็อกน่าจะมีคนหาข้อมูลก่อนไป ปรากฏว่ายอดวิวน้อยมากๆ
 - บล็อกที่ไปตะเวนกินร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสีลม อันนี้กะว่ามีคนหาข้อมูลแล้วตามรอยอะไรงี้ ปรากฏว่าไม่ค่อย work เท่าไหร่ สาเหตุนึงน่าจะเพราะว่าไม่ใช่แหล่งฮิตๆ แบบบางรัก ตลาดพลู (ซึ่งเรากำลังรวบรวมไปกินอยู่ ไม่รู้เขียนแล้วจะรอดไหม) สยาม สุขุมวิท และเป็นงานที่ใช้ bugget เยอะมาก ถึงจะใช้ตอนยื่นภาษีปลายปีก็เหอะ พอจบตรงนี้สุขุมวิทก็ไม่กล้าแล้วข่าาา ต้องใช้งบเยอะ ขอผู้สนับสนุนใจดีได้ไหมก็ไม่รู้ 555

สิ่งที่ควรทำหลังเขียนบล็อกเสร็จ
- update ลง page
- แชร์ลงหน้า facebook ตัวเอง
- แชร์ลง facebook group ต่างๆที่เกี่ยวข้อง
- บางทีก็ group line ด้วย
สรุป แชร์วนไปข่าาาา

Feedback ส่วนใหญ่ บอกว่าเขียนละเอียดมากๆ อย่างรูปกับวิดีโอก็คิดล่วงหน้าว่าจะใส่ตรงไหนให้คนอ่านเข้าใจได้มากขึ้นงี้

ที่เราอยากปรับปรุงน่าจะเป็นเรื่องการถ่ายรูปที่ยังกากๆอยู่

----

สาเหตุที่เราแชร์เรื่องนี้ เพราะว่า
- มีพี่บางท่านถามว่าเขียนบล็อกยังไง พี่เขาอายุก็ประมาณ 40+ ยังไม่สันทันเทคโนโลยี
- เอาไปแชร์ใน town hall ของฟังใจ ให้คนรู้จักเรามากขึ้น
- แชร์ case study ไว้ เพราะการเขียนบล็อกก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น

ตอนนี้ก็ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะคะ สวัสดีค่ะ :)

ป้ายกำกับ:

วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

[Review] มาทำความรู้จักกับ Priceza เว็บเปรียบเทียบราคาสินค้า พร้อมกิจกรรมสานฝันนักเขียนรุ่นใหม่

สวัสดีทุกท่าน เราเองก็ไม่ได้รีวิวพวกเว็บไซต์หรือแอปปิเคชั่นมานานแล้ว วันนี้มีเว็บนึงที่เราจะมารีวิว คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันแล้วสำหรับใครหลายๆคน นั่นคือ Priceza เครื่องมือค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคา อันดับ 1 ของประเทศไทย นั่นเองงงงงง

Priceza.com คือ เครื่องมือค้นหาสินค้า (Shopping Search Engine) และเปรียบเทียบราคา (Price Comparison Shopping) อันดับ 1 ของประเทศไทย ที่รวบรวมสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ชั้นนำมากมาย โดยจะเป็นกลุ่มสินค้า Retail คือสินค้า Consumer ทั่วๆ ไป โดยมองหาราคาที่สมเหตุสมผล จากร้านค้าที่เชื่อถือได้ ซึ่ง Priceza เป็นช่องทางนึงในการค้นหาสินค้าและราคา ไม่ได้เป็นเว็บช้อปปิ้งออนไลน์นะเออ

นอกจากจะมีเว็บไชต์แล้ว มีแอปปิเคชั่นให้โหลดฟรี ทั้ง iOS และ Android อีกด้วยนะ

ในที่นี้เราจะใช้เว็บไชต์ในการค้นหา ทั้งบนคอมและในมือถือ


มาแอบดูการแสดงผลบนมือถือ ว่าเป็น responsive หรือเปล่า



และในแท็บเล็ทด้วย


มาเริ่มกันดีกว่า

1) หูฟัง : มาหาอันใหม่เพื่อฟังเพลงในฟังใจดีกว่า อิอิ

ค้นหาคำว่าหูฟังเลยจ้า


และพบหูฟังมากมาย หลากหลายราคา แต่มีอันนึงสะดุดตาเอามากๆ ราคา 110 บาท


เข้ามาดูรายละเอียดภายใน เป็นดังนี้


Lazada มีหลายร้านเลยแหะ กดดูตรงตัวหนังสือสีแดงใต้ราคาดีกว่า


ไปดูอันที่เป็น 110 บาทกันดีกว่า
ระหว่างไปหน้าร้านค้าก็จะมีแถบ progress น่ารักๆด้วย

พอถึงหน้าร้านพบกับความงงงวยเป็นอย่างมาก นี่หนูพาพี่ไปถูกที่ป่ะลูก


พอดูร้านอื่นเจ้าอื่นที่ชาย 490 บาท แถบสะดุ้งเลย .... =[]=


ลองดูอีกสักชิ้น เออแปลกดี หูฟัง on-ear เอ้อออแต่มีร้านเดียวแหะ



ร้านเดียวมีของหลายสีเลยแหะ


ไปที่ร้านเขาดีกว่า อ้าว..... ไม่มีของแหะ


เราสามารถ filter เพิ่มได้ด้วย ทั้งราคา ยี่ห้อ หมวดสินค้า รุ่นย่อย ร้านค้า และคำค้นที่เกี่ยวข้อง ที่ด้านซ้ายของหน้าจอ

ในที่นี้เราเลือกหูฟังยี่ห้อฟิลลิป ราคาไม่เกินพันนะ


เลื่อนลงมาพบกับหูฟัง in-ear สีสะดุดตา


ร้านค้ามีหลากหลาย น่าจะได้ของแหละนะ


เปิดดูเลยทั้ง 4 เจ้าเลยดีกว่าเพื่อความเท่าเทียม

11ST



LAZADA นี่ก็ขายถูกสุดนะ


BananaStore.com


weloveshopping.com


ข้อสังเกตนะ สามเว็บแรก Priceza จะ redirect ไปที่หน้าเว็บนั้นๆ ยกเว้นของ weloveshooping ที่ดึงข้อมูลเข้าเว็บของตัวเอง

จบภาระกิจแรกแบบเหนื่อยๆ 555 ใครใคร่ชอบร้านไหนก็ซื้อร้านนั้นไปเนอะ :)

2) กระเป๋า : ลองเปิดหาในมือถือดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

เลื่อนลงมา เข้าหมวด เสื้อผ้าและแฟชั่น
จริงๆกดปุ่ม hamburger ก็ได้ จะได้แบบรูปขวา 


ในนี้มีเรียงกันหลายๆหมวด เช่น รองเท้าผ้าใบ นาฬิกาข้อมือ กระเป๋าสะพาย

กด load more เพิ้อเข้าไปดูเพิ่มเติม ก่อนกดแต่ละหัวข้อจะมี 3 items กดเพิ่มก็จะมาอีก 3 items เป็น 6 items และ มีแค่นี้หล่ะจ๊ะ นึกว่ากดเข้าไปอีกหน้านึงได้ซะอีก 


ข้างล่างมีบทความอัพเดตแฟชั่นด้วยยย


สรุป เราต้องพิมพ์หาเพิ่มเองสินะ ...



ระหว่างที่เราเข้าไปดูนั้น มีอันนี้ขึ้นมาให้เราประเมิน


งั้นเราเลือกหาด้วย keyword "กระเป๋า Kanken" ก็แล้วกันนะ


เมื่อโหลดหน้าใหม่มาแล้ว สังเกต banner มีเลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการด้วย


เข้าไปแล้วจะเป็นแบบนี้ เลื่อนลงมาจะพบกับกระเป๋าของแท้จากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มีปุ่มดูสินค้าทั้งหมดที่ล่าง list ของกระเป๋าด้วย


มีคนมารีวิวด้วย เลื่อนลงไปเกือบล่างสุดเลย


ลองไปดูใบบนสุด มันจะ redirect เข้าหน้า shopping online ของตัวแทนจำหน่าย งวดนี้เป็นมือถือ เลยเป็นเลข % loading ข้างบนแทน


เราสามารถเข้าไปช้อปปิ้งได้ตามสะดวกเลย มีของใน stock ด้วย เย้ จบเลยไม่ต้องเปรียบเทียบใดๆ



3) หนังสือ : เราอยากอ่านหนังสือดีๆสักเล่ม จะมีไหมน๊าา

เราลองหาบนไอแพดด้วย browser safari บ้าง ก็หน้าเว็บเขารองรับ responsive นี่นาาาา
มันจะมีเมนูกลมๆ เลื่อนได้ พอดีเจอหมวดหนังสือพอดีเลย กดเข้าไปดูดีกว่า


เข้าไปมีหมวดย่อยๆของหนังสือ มีหลากหลายประเภทเลย


ลองกดหมวด พัฒนาตัวเอง กันดีกว่า เจอหนังสือพี่วานวานด้วย อยู่บ้านทุกวันได้ไหมเนี่ย


คลิกเข้าไปดู จะบอกรายละเอียดของหนังสือ


มาดูว่ามีร้านไหนในออนไลน์ขายบ้างงงง


ร้าน book smile ราคาถูกสุดเลยยย เล่มละ 132 บาทเอง เข้าไปดูกันดีกว่าา
ตัวเว็บจะ redirect ไปยังหน้าของเว็บไซต์นั้นๆ น่ารักเชียวว
เพราะ Priceza เป็นเว็บค้นหาสินค้า และเปรียบเทียบราคา ไม่ใช่เว็บขายของนะเออ

มาถึงหน้าเว็บพร้อมกับความตกใจเล็กๆ ดังนี้ ............. สินค้าหมดดด


ด้านข้างก็มีบอกหนังสืออื่นๆใน Priceza ด้วย


มาเปลี่ยนมาเป็นร้านนายอินทร์ ที่มีโปรโมชั่นอยู่ด้วย


สามารถจ่ายเงินที่หน้าเว็บไซต์นั้นๆได้เลย


Priceza ช่วยในการค้นหาราคาสินค้า ว่าเว็บไหนขายเท่าไหร่ สามารถแสดงผลแบบ responsive ได้ทั้งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถือ การใช้งานเบื้องต้นไม่ยากมากในแต่ละ device และการสลับไปใช้ในหน้าคอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ท หน้าตาก็จาะคล้ายๆกัน 

การรวบรวมข้อมูลถือว่าทำได้ดีเลย อาจจะยากตรงปลายทางที่ของขายหมดแล้ว ไม่มีสินค้าที่เว็บปลายทาง บางทีหน้าร้านปลายทางดันผิดอันจากที่กดตอนแรกไปเลย ซึ่งไม่รู้ว่าทำไม และเพราะอะไร 

การ redirect ไปยังหน้าร้านออนไลน์จริงมีความน่ารักที่บอก progress ว่าไปถึงไหนแล้ว 

แต่บางอย่าง UX ยังไม่ค่อยดี เช่น เรื่องการแสดงผลสินค้าในแต่ละหมวดใน catalogy ยังมีจำนวนน้อย จริงๆไม่จะเป็นต้องใช้ lazyload หรือการดาวน์โหลดข้อมูลแบบค่อยเป็นค่อยไป แค่มี link ไปยังหน้าของแต่ละอัน เพื่อให้ user มีทางเลือกได้มากขึ้น

search query ที่เฉพาะเจาะจงก็ทำได้ดีทีเดียวในการแสดงผลการค้นหา จำนวนร้านค้าที่ขายสินค้านี้ และบอกราคาที่ตํ่าที่สุดมาเลย

จากการใช้งาน ให้ 8/10 นะ เอาใจช่วยนักพัฒนา Priceza ต่อไป จาก developer สาวคนนึง 55555
(เลาเข้าใจดีว่ามันก็ไม่ง่าย)

...

ปิดท้ายกันด้วยกิจกรรมดีๆสำหรับคนที่อยากเป็นนักเขียน กับแคมเปญ Shopping Experts Challenge 2017 (สานฝันสู่นักเขียนรุ่นใหม่) พร้อมชิงเงินรางวัลรวม 30,000 บาท โดยมีขั้นตอนการร่วมกิจกรรมง่ายๆ 3 ขั้นตอน ดังนี้


1) LIKE และ SHARE โพสกิจกรรมบนหน้า Fanpage Priceza ไปยังหน้า Wall ของคุณ พร้อมตั้งค่าสถานะเป็น Public (สาธารณะ)
2) เขียนบทความ บอกเล่าเรื่องราวในสไตล์ของคุณ จาก 3 หมวดบทความ (เลือกเขียนได้ทุกหมวด) ดังนี้
​​ - IT-Gadgets
 - LifeStyle - Beauty (เสื้อผ้าแฟชั่น, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องสำอาง ฯลฯ)
 - Reviews
​3) ส่งบทความ ของคุณมาที่ Email : contribute@priceza.com โดยแนบ ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร และอีเมลที่ติดต่อได้ มาพร้อมกับบทความ

ถ้าใครยังงงๆในการเขียน มีให้ดูเป็นไอเดียตามนี้เลยยย www.priceza.com/guide
ส่งบทความเป็นไฟล์ .doc มายัง contribute@priceza.com

เงินรางวัล Shopping Experts Challenge ( เงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 30,000 บาท )
- รางวัล จำนวนบทความเยอะที่สุด (ถูกใจทีมงาน) ในหมวด Reviews เงินรางวัล 10,000 บาท
- รางวัล จำนวนบทความเยอะที่สุด (ถูกใจทีมงาน) ในหมวด IT-Gadgets เงินรางวัล 5,000 บาท
- รางวัล จำนวนบทความเยอะที่สุด (ถูกใจทีมงาน) ในหมวด Lifestyle เงินรางวัล 5,000 บาท
- รางวัลพิเศษ Special Gift สำหรับบทความที่มียอดวิว (View) รวมกันมากที่สุด เงินรางวัล 10,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม ตามนี้เลย http://www.priceza.com/guide/Shopping-Experts-Challenge-2017/610


ตอนนี้ ขอกลับไปทำงานทำการก่อนค่ะ พบกันใหม่บล็อกหน้าเน้ออ

---


ป้ายกำกับ: