วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560

[Review] สร้างปราสาทดิสนีย์ด้วย MORINAGA PACK'CHO CHOCOLATE & STRAWBERRY


สวัสดีค่ะทุกท่าน ห่างหายจากการรีวิวขนมและทำอาหารไปนานพอควร วันนี้มีขนมใหม่มาแนะนำ ชื่อว่า MORINAGA PACK'CHO CHOCOLATE & STRAWBERRY หรือ ขนมทานเล่น บิสกิต สอดไส้ครีม โมรินากะ พากุนโจะ ของ MORINAGA นั่นเอง หน้าตาเป็นอย่างไร มาดูกันดีกว่า ชวิ๊งงงง


แนะนำขนมกันก่อนสักนิดนึง

- MORINAGA PACK'CHO CHOCOLATE : นํ้าหนัก 47 กรัม ราคา 39 บาท

(รูปรวม)

หน้ากล่องเป็นพี่มิกกี้เม้าท์พื้นหลังสีเหลือง ด้านหลังเป็นเกมส์ให้เด็กๆเล่นกัน อย่างอันนี้เป็นเกมส์วงไข่

มาแกะขนมกันดีกว่า แกะออกจากด้านข้างนะ


ข้างในมีถุงใส่ขนมๆค่อนข้างจะพี่มิกกี้ใสๆหน่อย


ข้างในมีเฉลยเกมส์จากนอกกล่อง


มาสำรวจภายในถุงดีกว่าว่ามีกี่ชิ้น ลายประมาณไหนบ้าง ชิ้นขนาดค่อนข้างเล็ก อัดแน่นไปด้วยไส้ซ็อคโกแลตเต็มๆคำ ตัวลายก็มีหลากหลาย ทั้งเจ้าชาย เจ้าหญิง มิกกี้ ไปจนถึงโอลาฟเลยทีเดียว แล้วมีรูปรองเท้าแก้วซึ่งชิ้นนั้นเป็นรูปหัวใจนะเออ มีจำนวนทั้งหมด 20 ชิ้น


- MORINAGA PACK'CHO STRAWBERRY : นํ้าหนัก 45 กรัม ราคา 39 บาท

(รูปรวม)

เป็นรูปมินนี่เม้าท์สีชมพูหวานแหวว ด้านหลังคืออ่านไม่ออกง่ะ น่าจะเกี่ยวกับตัวละครมั้ง ในที่นี้เกี่ยวกับเจ้าหญิงโซเฟีย


สำรวจขนมภายใน ส่วนใหญ่เป็นลายเจ้าหญิงนะ มีหมีพู โอลาฟ บลาๆ รวมถึงไพ่จากอลิสแดนมหัศจรรย์ จำนวนมี 21 ชิ้น รสชาติค่อนไปทางหวาน คือหวานกว่าซ็อกโกแลตเสียอีก ขนมแท่งๆก็เป็น เพราะนํ้าตาลมากกว่า


มาดูข้อมูลทางโภชนาการกันดีกว่า การันตี เมนูนี้อ้วนแน่นอลลลลลล


เมนูขนมหวานในวันนี้ เหมาะกับช่วงอากาศอันร้อนระอุในประเทศไทยมากๆเลย ........ เข้าใจนะค่ะว่านี่มันฤดูฝน แต่ในหนังสือเรียนบอกว่า ก่อนฝนจะตก อากาศจะอบอ้าว ....................... อากาศร้อนทุกวัน โอเคนะคะ โอเค เมนูวันนี้ คือ ปราสาทดีสนีย์ นั่นเอง วิธีทำไม่ยากเลย

วัตถุดิบในการก่อร่างสร้างปราสาท



1. โมรินากะ พากุนโจะ
2. ไอศครีมถ้วย ไอศครีมกล่อง คือไอศครีมในภาชนะใดก็ได้ค่ะ ที่มันสร้างปราสาทได้
3. ขนมเยลลี่ที่แกะยากที่สุดในแผ่นดินนี้ เราเอาไปแช่งช่องแข็งเลย
4. จาน เอาไปแช่แข็งก่อนนะ บางคนสงสัยว่าทำไม ก็ไปสังเกตุตามร้านไอศครีมเจ้าดัง เขาเอาถ้วยมาแช่ตู้เย็น เพื่ออุณหภูมิเท่ากับไอศครีม เพื่อให้ไอศครีมละลายช้าไง
5. นมข้นหวาน ครีมเทียมขนหวาน ซอสซ็อคโกแลต ซอสสตอเบอร์รี่ตามใจชอบ แต่ไม่รับประกันความหวานเกินอัตรานะจ๊ะ (ในรูปไม่ได้ชักภาพร่วมนะจ๊ะ พอดีลืม)
6. กราโนล่า เรนโบว์ อะไรก็ได้ โรยๆไป

วิธีสร้างปราสาท



1. นำไอศครีมมาใส่จาย อาจจะตัดไอศครีมเป็นฐานตั้งปราสาท ถ้าแบบถ้วยง่ายเลย เปิด ควํ่า โปะ เสร็จแล้วจ้า ฐานปราสาท


2. แกะเยลลี่โปโปปี้ลงไป เป็นยอดปราสาทไง



3. แกะขนม โมรินากะ พากุนโจะ ทั้งสองรส ไปแปะไว้ที่ตัวฐานปราสาท เสมือนพวกนางอยู่ในปราสาทกันไง ปราสาทดิสนีย์อ่ะ



4. ตกแต่งความด้วยงามด้วยซอสที่เตรียมไว้ และโรยด้วยกราโนล่า

เสร็จแว้ววว ปราสาทดีสนีย์


ชิมรสชาติ ...


โดยรวมนะ คือทานเข้าคู่กันอร่อยดี หวานๆเย็นๆ มีความกรอบจากตัวโมรินากะ พากุนโจะ และกราโนล่าแล้ว มันมี texture เพิ่มเติม ตอนถ่ายรูปก็กินเวลาจนไอศครีมและเยลลี่แกะยากเริ่มละลายบ้างแล้ว เลยไม่ออกเป็นรูปทรงที่สวยงามมากนัก แต่ที่โดคคือรสสตอเบอร์รี่นี่แหละ หวานเว่อร์สุด


ด้วยความที่วัตถุดิบที่มี สามารถทำทานได้หลายรอบ อีกสักรอบสองรอบจะเป็นไรไป




-----




ป้ายกำกับ:

วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ประสบการณ์การเข้า hackathon สายเว็บครั้งแรก ที่งาน PWA online hackathon

ส่งงานคนแรกเลยเย้ T^T

สวัสดีค่ะทุกท่าน ขอเกริ่นแบบยาวๆนิดนึง ตอนที่แข่งเถ้าแก่น้อยเมื่อสองปีก่อน เห็นคุณน้องท่านนึงไปงาน hackathon มา เห็นว่าน่าสนุกดี เลยตั้งเป้าร่วมงานแบบนี้ปีละครั้ง ซึ่งปีก่อนเริ่มจาก Bangkok Urban Hack Day ของป้ายุพิน ทำให้เกิดลุงสุขุมขึ้นมา ในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างเลย (ถ้าเรียบร้อยดีจะมีเขียนเรื่องนี้ปลายปีนะ) เลยคิดว่า ปีนี้จะมีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้างหว่า นอกเหนือจากไปงาน google ignite ซึ่งแทบไม่ได้เกี่ยวกับสาย developer โดยตรงเลย บังเอิญ มีงาน PWA online hackathon ซึ่งเราจะไปนั่งทำที่ไหนก็ได้ ที่มี internet ลง firebase hosting ความน่าสนใจ คือ ทำที่ไหนก็ได้ และเราเองก็ทำเว็บบน firebase อยู่แล้ว เลยอยากมาลองดู

แต่แล้ว ชวนใคร ก็ไม่มีใครมาด้วยเลย งานนี้เลยมาแข่งคนเดียวเลยจ้า T_T ก่อนหน้านี้มีลังเล ไปแข่งดีไหม ทำเว็บอะไรดี มันจะยากไปไหม สุดท้ายก็เออ ลองดูดีกว่า ประกอบกับช่วงนี้มี gap นิดๆด้วยแหละ เลยมาลงแข่ง

ไอเดียตอนแรก ทำเว็บหาสี แปลงค่าสีเป็น rgb hsb แล้วหา secondary color ที่เหมาะสมตาม material design แต่สำหรับเรามันยากไป

ไอเดียต่อมา ทำแอปสุ่มอาหารวันหมี แต่เราสร้างโปรเจกทิ้งไว้ใน firebase บ้างแล้ว เกรงว่าจะผิดกติกา เลยตัดทิ้ง

สุดท้าย ลองทำเว็บ flash card คล้ายๆ primer หรือ google codelab ดีกว่า เพราะเราเองมีโปรเจกที่จะ sharing การสอนภาษาคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ถ้าทำเป็นแอปแอนดรอยด์ คนใช้มันเฉพาะ android ถ้าทำ pwa มันครอบคลุมทุก platform มากกว่า เลยเลือกอันนี้แล้วกัน

ก่อนอื่นศึกษา pwa ก่อน ว่าคืออะไร

การเพิ่ม add to home screen ในหน้า iPad บน iOS10

PWA คือ Progressive web app ที่หน้าตาเหมือน native app
- สามารถรองรับการแสดงผลแบบ responsive ได้
- สามารถ add to home screen พร้อมโลโก้ของเว็บแอปเหมือนแอปในมือถือเลย โดยไป setting ที่ manifest.json
- สามารถแสดงผลแบบ offline โดยเก็บ cache เพื่อดึงมาแสดงผลได้รวดเร็วขึ้น โดยไปสร้าง js มีไฟล์นึง ที่เป็น service worker


จากนั้นลองทำดูก่อน เพื่อหาความเป็นไปได้ จะได้ไม่เงิบตอนแข่ง โดยศึกษาจากในเว็บ google developer เองหรือใน codelab
- official website : https://developers.google.com/web/progressive-web-apps/
-You first progreesive web app : https://developers.google.com/web/fundamentals/getting-started/codelabs/your-first-pwapp/
- Adding a Service Worker and Offline into your web app : https://codelabs.developers.google.com/codelabs/offline/#1
- udacity course ครอบคลุมการทำ manifest และ service worker : https://classroom.udacity.com/courses/ud811/lessons/8086102617/concepts/80897065540923

แต่ปัญหา คือ ก่อนหน้านี้งานยุ่งมากๆ เนื้อหาในเว็บเตรียมไม่ทัน คือเรียงเรียบไม่ทัน ตัวเว็บเลยมีแค่นี้ก่อน หลังงานจะเพิ่มต่อไป โลโก้ วาดเอาวันงานเลย ใช้พู่กันผิดด้วย ภาพเลยไม่คมแบบปกติ หนักสุดคือตัวการ์ดเนื้อหา ยังไงดีว่ะ ให้เราพอทำได้ กับ user happy

ออกตัวก่อนว่าเราเป็น Android Developer นะ ไม่ใช่ Web Developer นะ แต่พอมีประสบการณ์เขียนเว็บมาบ้าง อย่างเว็บพอร์ตของตัวเองใช้ bootstrap ก็ตัดแปะเอา พอทำ html กับ css ได้ แต่ js ไม่ค่อยได้ งานนี้กะมาสนุกๆ ขอให้ได้เสื้อกับสติ๊กเกอร์ก็พอ อิอิ

เนื่องจากเราไม่อยากเขียนใหม่ทั้งหมด เลยใช้ตัวช่วย จะใช้ bootstrap กลัวว่าจะหน้าตาไม่เหมือน native app ลองใช้ polymer ก็งงๆ เลยมาใช้ materialize แทน เพราะสร้าง card ได้ สามารถปรับแต่งหน้าตาได้

มาถึงเวลาแข่งกันแล้วหล่ะ
การเปิดตัว shortcut เพื่อเข้าหน้าแอป
หน้าตาของ owlvegrammo อย่างคร่าวๆ ทำ nav bar เพื่อแสดงเมนูบนจอมือถือหรือแท็บเล็ท
โดยหน้าแรกเป็นการ์ดรวม และพาไปยังหน้าอื่นๆ ในรูปแบบการ์ดเช่นกัน แต่ไหงไปหน้าเว็บแทนละนี่

เริ่มทำหน้าแรก ที่แสดงหัวข้อเนื้อหาทั้งหมด รูปจาก pixabay มีหัวข้อเรื่อง คำบรรยาย และปุ่ม

หน้าที่สองที่เสร็จ หน้า about

หน้าต่อๆมา ใส่เนื้อหาที่วางไว้ ตอนแรกจะทำให้คล้ายๆ codelab ทำตัวเลื่อนก็ไม่ค่อยสวย เลยทำไปทีละหน้าอย่างถึกๆ 😑 จริงๆอาจจะมีวิธีที่ดีกว่านี้แหละ

ด้านล่างคือหลังจาก add to home screen ที่หน้า Android เหมือนแอปเลย แต่ถ้าเปิดหน้าเว็บหลายๆหน้า เหมือนเปิด activity บนหน้าแอปเลย ต้องกดย้อนกลับไปเรื่อยๆจนออกเลยทีเดียว




ทำไปสักพักเราคิดว่าเราพอหล่ะ จะทำ push notification ก็ยังไม่จำเป็นเท่าไหร่นัก ตัวเนื้อหาเขียนต่อก็ไม่ทันเลยส่งเลยแล้วกัน เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า คือ หนีไปนอนนั่นเอง 😪

ตอนจะ submit มีปัญหา กรอกชื่อแอปไม่ได้ บอกให้ทีมงานแก้ให้ จริงๆเราอยากอ่านเบื้องหลังการทำเว็บของงานนี้อยู่เช่นกัน 😊

ได้อะไรจากงานนี้บ้าง?
เราไม่ได้หวังของรางวัลที่ 1 2 3 แต่หวังเสื้อกับสติ๊กเกอร์ 😅

สามารถ prove บางอย่างได้ เช่น
- คิดว่าการทำเว็บ pwa ช่วยลดต้นทุนการทำ 3 platform เหมาะสำหรับของที่ไม่ซับซ้อนมาก
- เหมาะกับการโปรโมตบางอย่างในช่วงสั้นๆ แล้วทิ้งขว้างไป...
- คิดว่าทำอะไรเจ๋งๆได้ไม่ยากนัก ☺

ก่อนอื่นขอบคุณผู้จัดงานที่จัดงาน PWA online hackathon ที่จัดงานนี้ขึ้นมาให้พวกเราได้ร่วมสนุกกัน ทั้งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และขอบคุณตัวเองที่มาร่วมสนุกกันกับงานนี้ ถึงคะแนน lighthouse จะกลางๆ ค่อนไปข้างน้อย เว็บแอปก็ไม่ได้มีอะไรที่เทพมากมาย ทำออกมาให้พอใช้ได้จริงๆ

ปล. ถ้าได้ของแล้ว จะอัพเดตด้านล่างนะคะ

ป้ายกำกับ: ,

วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2560

[Mini-Review] สัมผัสรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมทดลองขับ BMW i3 ที่มีบริษัทไทยร่วมผลิต

สวัสดีค่ะทุกท่าน ขออนุญาติบรีฟทุกท่านแบบสั้นๆสำหรับเนื้อหาในตอนนี้ เนื่องจากเราทำงานอยู่ที่บริษัท ThaiGerTec ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติ มีบอสใจดีอย่างคุณมาคุส เล็งเห็นศักยภาพของคนไทย เลยมาตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา หลักๆเลยคือ ทำ R&D ให้กับบริษัทรถชั้นนำแห่งเยอรมัน นามว่า BMW ที่เขาพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นไปตามนโยบายหลักของประเทศที่จะเปลี่ยนรถยนต์ปกติทั้งหมดเป็นรถไฟฟ้า การเป็นรถยนต์ไฟฟ้านี้นั้น จะต้องมีการใช้ไฟฟ้าในการทำงานในส่วนต่างๆของรถยนต์ มี ECU ที่เปรียบเสมือน CPU ของรถยนต์ แบตเตอรี่ไฟฟ้า และ feature อื่นๆ เช่น หน้าปัดรถยนต์ กล้องมองหลัง จนสามารถชาร์จรถยนต์ด้วยไฟบ้านได้ โดยไม่ต้องใช้นํ้ามัน และสามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้ การพัฒนารถยนต์รุ่นนึงใช้เวลานานถึง 5 ปีเลยทีเดียว จนออกมาเป็นรถยนต์ BMW i3 คันนี้ นั่นเองงงงงงง



ในงานมีรถยนต์ BMW i3 ตัวจริง มาให้เราสัมผัส


ด้านข้างรถ ประตูเป็นแบบแคป ปิดประตูหลังก่อนค่อยปิดประตูหน้านะ



ด้านหน้า อ้าว เครื่องยนต์หายไปไหน อันนี้ถามพี่ๆคืออยู่แถวๆประตูนะ อันนี้ไม่แน่ใจแหะ แต่ขนาดเล็กอยู่นะ ไม่งั้นไปอยู่ในนั้นได้ไง...



ทุกคนมุงตัว charging กัน เพราะรถคันนี้ชาร์จด้วยไฟฟ้าจ้า


ภายในห้องโดยสาร หน้าจอเป็นดิจิตอลทั้งหมดเลย




ผู้บริหารของ BMW Mr. Eike Recker และ Mr. Michael Boeckl มากล่าวถึงกลยุทธในการพัฒนารถยนต์ร่วมกัน สรุปใจความย่อๆ ได้ดังนี้


- ทาง BMW ศึกษาเทรนที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปพัฒนา product ของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องของตัวรถยนต์อย่างเดียว ยังรวมเรื่องของ service ด้วย
- แนวทางการพัฒนาคือจะเน้น flexible ทำให้คนนอกสามารถพัฒนาได้ง่ายขึ้น
- standard รถยนต์ มี 4 ชาติ คือ สหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น (หน่วยงานในไทยก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะเอาอันไหนดี)
- เปลี่ยนรถยนต์เครื่องดีเซล เบนซิน พวกนี้ เป็นรถยนต์ไฮบริค หรือรถยนต์ไฟฟ้า
เครื่องยนต์แบบเดิมจะมี performance ตํ่า และสูญเสียพลังงาน อะไรทำนองนี้ค่อนข้างเยอะ ส่วนแบบไฟฟ้านั้น performance 90% เลย
- มีแผนที่จะลดการปล่อยมลพิษ ให้มีประสิทธิภาพขึ้นเรื่อยๆ และปล่อยมลพิษลดลงจนแทบไม่มี
- มีการเชื่อมต่อกับมือถือ เราสามารถดูรายละเอียดของรถ และสามารถ config ผ่านมือถือได้เลย
- ยอดขาย แรกๆคือของใหม่ ยังขายไม่ค่อยได้ ปัจจุบันขายได้เยอะมากๆ ประมาณ 120,000 คันในปีล่าสุด


จบท้ายด้วยคุณ Eike บอกว่า ควรบอกต่อไปยังเพื่อนและครอบครัวของคุณ เกี่ยวกับความภูมิใจในการพัฒนารถคันนี้ (ประมาณนี้นะ ไม่เป๊ะเท่าไหร่)


หลังจากกล่าวจบ ก็มีการมอบของที่ระลึก ชักภาพร่วมกัน และเข้าสู่ team party จะรอช้าอยู่ใยไปหาของกิน เอ้ยยย ไปสัมผัสรถยนต์ BMW i3 ต่อเลยดีกว่า

โจทย์ ถ่ายภาพอย่างไรให้ดูรวย
เรายังไม่ได้ลองกดเล่นนะ แต่ค่อนข้างสะดวกที่ไม่ต้องเลื่อนมือจากพวงมาลัยไปกดที่จออะไรงี้


มีที่วางแก้ว และน่าจะปรับแอร์ ส่วนตัวเบรก เกียร์ อันนี้ไม่แน่ใจแหะว่าอยู่ไหน


ตรงนี้ล็อกกระจกและประตู


รถคันนี้ใช้ไฟฟ้า ไม่ใช้นํ้ามันนะ เวลาชาร์จเสียบแบบนี้นะ


ด้านหลัง ใส่ของได้ประมาณนึง ไม่ได้เยอะมากตามสูตรรถขนาดเล็ก


สีแดงน่าจะเป็นตัวลากเวลารถเสีย อันนี้ถามพี่ๆมาอีกที ถือว่าสะดวกอยู่นะเวลาแบบฉุกเฉิน


รถยนต์ครึ่งหลัง


ตัวนี้คือ Charging ในรถยนต์ ที่ทาง ThaiGerTec มีส่วนร่วมในการพัฒนา


ในวันงานมีเบอร์เกอร์ และเครื่องดื่ม cocktail ให้เราได้ทานกัน มีเบียร์ด้วย ซึ่งอันหลังถือมาถ่ายเฉยๆ (จริงๆนะ) นานๆได้เห็นเบียลาวของจริง


ปล. รูปจิ๊กมาจากน้องที่ออฟฟิคอีกทีในบางรูป เนื่องจากงานจัดตอนเย็นไปจนคํ่าด้วย รูปที่เราถ่ายเลยมืด เลยเอาจากกล้องจริงน่าจะโอเคกว่า
----------------------------------

วันที่สอง ได้มีโอกาสไป drive thru ขับรถจริง แต่เราขับไม่เป็น ก็นั่งเป็นเพื่อนคนขับเอาแล้วกันนะ ที่พระนครเหนือ สนุกมากๆเลย ก่อนอื่น มาพบเพื่อนใหม่ที่รู้จักกันวันแรกกันก่อน สวัสดีจ้าาาา


รถเขาก็หิวข้าวเป็นนะ ต้องชาร์จพลังงานกันก่อน เสียบด้วยปลั๊กไฟบ้านนี่แหละ


มี adapter แปลงไฟเข้ารถ ไม่ต้องห่วงเน้อ


ด้านหลังอันสวยงาม มินิ


ด้านใน เพิ่งเห็นที่ปัดนํ้าฝนจ้าาา


ออกตัวหล่ะนะ กฎกติกา คือ ให้ขับคนละรอบ รอบที่จอดรถ ที่ใกล้ๆกับโรงเรียนเตรียมของพระนครเหนือ ใกล้หอใน


นี่คือกุญแจรถนะ ไม่ต้องเสียบกุญแจนะเออ เปิดรถก็วางที่ไหนก็ได้ แต่อย่าลืมว่าวางไว้ไหนนะเออ


ขับไปเรื่อยๆก็จะบอกความเร็วตรงจอใกล้พวงมาลัย และสามารถเลือกโน้นนี่ที่จอตรงกลาง ส่วนแอร์ก็ด้านล่าง



ถ้าจะออกรถแล้วประตูไม่ปิดนะ นางฟ้องนะ ไม่ให้ไปด้วย เพื่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคน


เราอัดวิดีโอไว้ เพิ่งมาตัดเสร็จ รวมของเกือบทุกคนที่เรานั่ง (เมมเกือบเต็มเลย)


บอกก่อนเลยว่า ทุกคนที่ขับชอบมากๆ อยากได้ จะเอาาาา งานพรีเมี่ยมมากๆ ราคาก็มินิเลย จำไม่ค่อยได้ว่าประมาณล้านแปดหรือสามล้าน อันนี้งงๆ แล้วรถขายไม่เยอะด้วยแหะ รถฉลาดมาก ขับไม่ยากนะถ้าขับเป็น ข้อเสียก็เรื่องที่ขับไกลมากๆเหมือนรถยนต์ระบบปกติไม่ได้ด้วยแหละ เดี๋ยวไฟฟ้าในรถจะหมดเสียก่อน (อันนี้เหมือนได้ข่าวว่าจะขยายจุด charge ของรถในกรุงเทพนะ เห็นในเพจ BMW แว่บๆ)

บล็อกนี้ก็ขอบคุณผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทุกท่านเลย สำหรับงาน R&D Automotive รถยนต์ไฟฟ้าระดับโลกคนนี้ จนสุดท้ายออกเป็น product ให้เราได้ลองนั่ง ขอบคุณค่ะ

น้อง BMW i3 ตัวเล็กและสง่างาม รูปโดยน้องไอซ์ ซึ่งแอบเอามาแปะอีกที
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พื้นที่โฆษณา ทางบริษัท ThaiGerTec ได้ไปจัดนิทรรศการในงาน Nepcon Thailand 2017 ที่ไบเธค บางนา โดยได้จัดบูธอยู่ในโซนของ TESA หรือสมาคมสมองกลฝังตัวไทย ในวันที่ 21-23 มิถุนายน 2560 นี้ มีทางนักพัฒนาจากหลายๆทีมมาให้ความรู้ หรือสามารถสอบถามกันได้ที่งานนะ (ซึ่งไม่ได้พบเจ้าของบล็อกนี้แน่นอน 555)


ภายในงานมีรูปพวกเราชักภาพร่วมกันน้อง i3 แล้ว ยังมี hardware จริงมาให้สัมผัสกันด้วย ทั้งที่อยู่ในรถยนต์อย่างตัว charger และอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ในการ test ด้วยหล่ะ


ป้ายกำกับ: