วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

[Review] มาทำความรู้จักกับโฟมไม่มีฟอง SMOOTH E BABYFACE FOAM ว่าเทพขนาดไหน



สวัสดีทุกท่าน เราก็ได้รีวิว skincare มากหลายตัวแล้ว แต่ยังไม่ได้รีวิว item ที่เคยใช้มาตอนเด็กๆ นั่นคือ Smooth E Babyface Form นั่นเอง เป็นโฟมล้างหน้าสูตรไม่มีฟอง Non-Ionic (NIS®) สะอาดใส ไร้สิว ไร้ริ้วรอย ผิวชุ่มชื้นฉ่ำน้ำ


โฟมไม่มีฟองต่างจากโฟมปกติอย่างไร...

ในบทความของ ไอแอมมอร์ย่า ซึ่งเป็นบทความทางการแพทย์ ได้กล่าวไว้ว่า

"ฟองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการช่วยทำความสะอาด
การเลือกใช้สารทำความสะอาดก็มีผลในตัวของมันเอง
เช่นถ้าเลือกใช้แบบประจุบวก หรือลบ สบู่ก็จะมีฟองมาก
__ถ้าเลือกใช้แบบไม่มีประจุ จะมีฟองน้อยหรือไม่มีฟอง
หลายคนบอกว่าฟองคือผลพลอยได้ มีนก็จริง, แต่จริงๆแล้วเราเลือกได้ว่าจะให้มีหรือไม่มี
นอกจากนี้ยังมีการใส่สารเพิ่มฟอง เพราะผู้ใช้มักชอบไอเท็มทำความสะอาดที่มีฟองแยอะๆ

ถ้ามองตามคุณสมบัติจากสาร การไม่มีฟองจะทำให้มีการระคายเคืองน้อยกว่า
ถ้าผู้ใดเปลี่ยนไอเท็มทำความสะอาดจนไม่ไหวจะเคลียร์แล้วยังระคายเคืองอยู่
ลองมองหาไอเท็มทำความสะอาดที่ไม่มีฟอง และมีค่าpHเท่าผิวคือ 5.5 ดูค่ะ คุณอาจได้พบทางออกที่หามานาน"


ในมุมมองของเรา มองว่า ...

ทำไมโฟมถึงมีฟองหล่ะ เพราะว่ามีส่วนผสมของสบู่ซึ่งเวลาเราไปตีกับนํ้าแล้วทำให้เกิดฟองยังไงหล่ะ ดังนั้นโฟมไม่มีฟองก็ไม่สบู่เป็นส่วนผสม ตีกับนํ้าให้ตายยังไงก็ไม่มีฟองหรอก

มาทำความรู้จักกันกับ สมูทอี เบบี้เฟซ โฟม กันดีกว่า



ส่วนประกอบสำคัญ :

Vitamin E, Rose Oil Extract, Seaweed Extract, Polyxyethelene (20) cetel ether

คุณสมบัติ :

1.โฟมสูตร Non-Ionic ไม่มีฟอง ไม่มีประจุไฟฟ้า จึงไม่ทิ้งสารตกค้าง

2. วิตามินอีบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ช่วยลดริ้วรอย ต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ และบำรุงเซลล์ผิวให้มีสุขภาพดี

3. Hypo-Allergenic ที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้ผิวที่บอบบางแพ้ง่าย

4. pH-Balance และ Non-Comedogenic มีค่าความสมดุลของกรดและด่างตามธรรมชาติและช่วยลดการระคายเคืองของสิว

5. OMC (Optimum Moisturizer Complex) ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของ สมูท อี ที่ได้รับมาตรฐานการรับรองจากสถาบัน Nature’s Vita สหรัฐอเมริกาให้ความชุ่มชื้นในระดับที่เหมาะสมกับผิวหน้า

6. 3 in 1 : Cleanser+Moisture+Toner (กระชับรูขุมขนได้ด้วย)

7. มี Miosture จากธรรมชาติช่วยบำรุงผิว

8. โฟมไม่มีฟอง หลังล้างที่รู้สึกลื่นคือดี...เพราะไม่ทำลายน้ำหล่อเลี้ยงผิว

จุดเด่น :

• โฟมสูตรไม่มีฟองแท้ NiS 100% (Non-Ionic) ไม่มีประจุไฟฟ้า จึงไม่ทิ้งสารตกค้างอันเป็นสาเหตุของสิวและริ้วรอย อุดมด้วยวิตามินอี

• ใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพื่อผิวหน้านุ่ม ชุ่มชื้น

มาแกะกล่องกันดีกว่า

ตอนแรกมาแบบนี้เลย เดี๋ยวนี้มีกล่องด้วย



แกะกล่องแล้วมีตัวสมูทอี เบบี้เฟซ โฟม พร้อมด้วยกระดาษแนบ ซึ่งบอกรายละเอียดของผลิตภัณฑ์



ก่อนใช้งาน แกะฟรอยออกก่อนนะเออ


วิธีการล้างหน้า

1. ล้างหน้าด้วยนําสะอาด


2. บีบเนื้อโฟมลงบนฝ่ามือที่เปียก ถูไปมาบนฝ่ามือ แบบนี้ โฟมไม่มีฟอง มันจะตีฟองไม่ขึ้นนะ



3. ลูบไล้เบาๆทั่วใบหน้าที่แห้ง นวดสมูทอี เบบี้เฟซ โฟม ทั่วใบหน้าสักครู่ มือเราสัมผัสผิวหน้าโดยตรงแบบไม่ผ่านฟองเลยหล่ะ กลิ่นหอมแบบธรรมชาติ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว


4. ล้างออกด้วยนําสะอาด หลังใช้จะสัมผัสได้ถึงความเนียนนุ่ม กระจ่างใส


มาดู Before & After กัน


ตอนแรกที่เราทดลองใช้ คิดว่าทิ้งหน้าเพื่อทำรีวิว เลยมีรอยแดงๆที่หน้า แต่ไม่ได้รู้สึกแสบร้อนใดๆ แค่แดงขึ้นมาเฉยๆ



ลองรอบที่สองแบบล้างหน้าปกติ แค่ถ่าย Before & After ก็พบว่า มีรอยแดงๆที่หน้าเหมือนกัน แต่ไม่ได้แพ้นะเออ ไม่เข้าใจว่าทำไม แต่หน้ากระจ่างใสขึ้นและสะอาด เลยให้ 8/10 คะแนนจ้า



ช่องทางติดตามข้อมูล และข่าวสารของ Smooth E

- http://www.smooth-e.com/

- https://www.facebook.com/SmoothEThailand/

-------------

ป้ายกำกับ:

วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ทดลองทำ android application ของเล่นไก่ยาง



หลังจากที่ได้ศึกษา PWA ก็มีแรงบันดาลใจในการทำแอปตัวนึงขึ้นมา คือ แอปน้องไก่โอ๊คนี่เอง ได้แรงบันดาลใจจาก airborne ที่สามารถทำงานแบบ offline ได้ เลยมาลองกับน้องไก่ดู ตัวแอปไม่มีอะไรซับซ้อนมาก เปิดมาเจอน้องไก่ กดเล่นแล้วมีเสียง ทั้งแบบกดทิ้ง และ แบบกดค้าง

มาดูกันดีกว่าว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง

น้องไก่



ถ้ารูปก็มีใน google เยอะแยะเลย แต่ใน pixabay ไม่มีเลย ตัวเสียงต้องทำเอง

เราเลยลงทุนซื้อน้องไก่ ตัวละ 20 บาท ซึ่งบางที่ขายแพงกว่านี้ แล้วแต่ความเนี้ยบด้วย ร้านที่เราซื้อมาไก่ตัวเล็กสองตัวด้วยแต่ยังไม่ได้ซื้อมา เอาแค่นี้ก่อน ตัวเสียงลองกดที่ตัวน้องไก่ดูว่าจะออกมาเป็นยังไงบ้าง แล้วอัดเสียงเก็บไว้

หน้าตาแอป


เอารูปน้องไก่ที่ถ่ายมาตัดฉากหลัง เพื่อเป็น logo และตัวหน้าแอป ใช้ paint.net ตัดเอา ง่ายดี เพราะเป็น free program จริงๆใช้ photoshop ตามปกติได้เลยแหละ ตามแต่สะดวก

เสียง
แปลงไฟล์เสียง m4a ที่อัดเสียงจากมือถือเป็น wav ด้วยโปรแกรม format factory
เอาไฟล์เสียงที่เราทำการตัดต่อและแปลงไฟล์แล้ว ไว้ที่ <project_name>/app/src/main/res/raw

ลองมือทำกันเลย
เริ่มจาก Activity กับ Fragment หน้าแรก จริงๆมันมีอยู่หน้าเดียวนั่นแหละ 
เราเพิ่ม 2 Fragment บน Activity คือ ตัวหน้าน้องไก่ กับหน้า manual 
ดังนั้นเราจะทำกันที่หน้า Fragment นะ เริ่มจากตัวน้องไก่ก่อน ในส่วนของ layout


จากนั้นมาใส่เสียงกัน ใช้ media player ในการเล่น โดยดักจับหูฟัง listener ที่ ImageView รูปไก่นั่นเอง ในที่นี้จับดักฟังสองแบบ คือ แบบกดทิ้ง setOnClickListener และแบบกดค้าง setOnLongClickListener ซึ่งตอนเรา implement จะ return false มาเป็น default ดังนั้นเปลี่ยนเป็น return true ซะ เพื่อที่สามารถรับ listener ตัวนี้ได้นั่นเอง ไม่งั้นทั้งการกดทิ้ง กดค้าง จะเข้า setOnClickListener ทั้งหมด

ดังนั้นการเขียนโค้ดก็ไม่ยากอะไร ดังนี้
// สร้างตัวแปรขึ้นมา และสร้าง MediaPlayer ให้เล่นไฟล์ sound.wav
// เคยทดลองใส่ไฟล์ mp3 ปรากฎว่าเล่นไม่ได้จ้าาา
MediaPlayer mMedia = MediaPlayer.create(getContext(), R.raw.sound);
//เล่นไฟล์เสียง ถ้าหยุดก็จะเป็น stop() อะไรงี้ แต่อันนี้ไฟล์เสียงสั้นมาก ดังนั้นมันจะหยุดเล่นเองเลย
mMedia.start(); 


ลองเล่นดูกันดีกว่า ...


การเขียนโค้ดไม่ยากเลย อาจจะยากตรงใส่ fragment manual ให้โปร่งใส วิธีแก้ง่ายๆ คือ นอกจากตัดพื้นหลังให้เป็นพื้นใสแล้ว สร้าง view อีกอันโดยให้พื้นหลังเป็นสีชา เพื่อให้ replace ตัว view นี้และดัน fragment น้องไก่ไปข้างหลัง เพื่อให้ user สามารถกดหา manual ได้ ซึ่งรวบไปเป็น function เพราะจะขึ้นมาตอนลงแอปครั้งแรกด้วย แบบนี้

getSupportFragmentManager().beginTransaction()
                .replace(R.id.aboutContainer, AboutFragment.newInstance())
                .addToBackStack(null)
                .commit();

จริงๆ ยากตรงเตรียมไฟล์เสียงมากกว่า ไฟล์สั้นแค่ 1-2 วินาทีเอง
ใครมีไอเดียเพิ่มเติมสามารถบอกกันได้ด้านล่างนี้นะ รออ่าน :)

ตัวแอปสามารถดาวน์โหลดได้ที่
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.mikkipastel.chicktoys
และตัว source code ทั้งหมดอยู่ที่ https://github.com/mikkipastel/Chicktoys

ป้ายกำกับ:

วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

[Review] เอาใจสายมัง ด้วยเมนูจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสผัก ซุน เวนจี ราเมียน


สวัสดีทุกท่าน เรามีเพื่อนร่วมงานสายมัง ซึ่งมังมีหลายสายนะ ไม่ว่าจะเป็นสายผักล้วน สายกินผลิตภัณฑ์จากสัตว์ได้บ้าง อาหารเจก็เป็นมังสายนึงเช่นกัน ในวันนี้จะนำเสนอเมนูอาหารมัง สายผัก แบบ save save ทำตามได้ทุกคน เผื่อไปช่วงอาหารเจด้วยเลย เราจะเห็นอาหารเจที่ทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ เช่น ไก่เจ แฮมเจ โปรตีนเกษตร สิ่งนึงที่หาค่อนข้างยากในสายตาเรา คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเจ ยิ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลีเมื่อก่อนเราหาไม่เจอเลย แต่ตอนนี้มีแล้ว นั่นคือ ซุน เวนจี ราเมียน บะหมี่รสผักนั่นเอง


ซุน เวนจี ราเมียน บรรจุ 5 ซอง ซองนึงมีน้ำหนัก 112 กรัม เขาบอกว่าสำหรับสายมังโดยเฉพาะ ผลิตจากเกาหลี ไม่ใส่ผงชูรส train fat 0% และได้รับตราฮาลาลด้วยนะ



ในซองมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลีก้อนกลม ผงปรุงรส และผักแห้ง


วันนี้มีเมนูมานำเสนอ มี 2 เมนูเช่นกัน โดยนำซุน เวนจี ราเมียน เป็นพระเอกของงาน

เมนูแรก ผัดหมี่เจ

ส่วนผสม
1. ซุน เวนจี ราเมียน 1 ห่อ
2. เห็ดชิตาเกะสด
3. กะหลํ่าปลี
4. นํ้ามันพืช
5. ซอสถั่วเหลือง

วิธีทำ
1. แกะซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสผัก เอาแต่เส้นบะหมี่ ต้มเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี 4 นาที เมื่อต้มเสร็จแล้ว สะเด็ดนํ้า พักไว้ ระหว่างนั้นหั่นผักทั้งหลายเตรียมไว้ก่อน



2. ตั้งกระทะ ใส่นํ้ามัน


3. ผัดเห็ดชิตาเกะสดก่อน จากนั้นใส่กะหลํ่าปลีลงไปผัด



4. ใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลีลงไปผัดในกระทะ ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองตามใจชอบ


5. จัดจาน โรยด้วยผักแห้งเพื่อความสวยงาม สามารถปรุงรสเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรสชาติได้


มาชิมรสชาติกัน 


บะหมี่ตัวนี้ไม่เหมาะกับการผัดเลย เส้นแหยะมากกกกเลยอ่ะ ตัวนี้รสชาติจืดประมาณนึงเลยแหะ

ทานคู่กับชาแก้เลี่ยนสักหน่อย


สรุป เมนูแรกยังไม่ผ่านนะ เพราะเส้นเขาไม่เหมาะกับการผัดจริงๆ



เมนูที่สอง บะหมี่มังเกาหลีต้มจับฉ่าย

ส่วนผสม
1. ซุน เวนจี ราเมียน 1 ห่อ
2. เห็ดชิตาเกะสด
3. ต้มจับฉ่าย จะซื้อจากร้านเจ หรือทำเองก็ย่อมได้ คือเอาผักที่เราต้องการ เช่น กวางตุ้ง คะน้า กะหลํ่าปลี มาผัด แล้วนำมาต้ม ในที่นี้เราจะเอาแต่ตัวผักมานะ


วิธีทำ
1. หั่นผักเตรียมไว้
2. แกะซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสผัก นำบะหมี่มาต้ม 4 นาที และนำมาพักไว้ ถามว่าทำแบบนี้ทำไม เพราะเวลาต้มเส้นจะมีนํ้ามันทอดบะหมี่กึ่งของเราด้วย เลยเอาออก



3. ฉีกซองเครื่องปรุงและผักแห้ง ลงบนหม้อ พร้อมใส่นํ้า นำไปตั้งไฟ


4. พอนํ้าพอจะเดือด ก็ใส่เห็ดที่เราหั่นเตรียมไว้ลงไป รอไปจนนํ้าเดือด



5. ใส่บะหมี่กึ่งลงไปต้ม


6. ใส่ผักจับฉ่ายลงไป พอเดือดก็ยกลงมาจัดจานพร้อมทาน


มาชิมรสชาติกันอีกสักรอบ


ตัวเส้นบะหมี่แบน ใส เหนี่ยวนุ่ม ลื่น ตัวนํ้าซุปหวานผัก มีความเค็มด้วย มีพริกผสมนิดหน่อย แต่ไม่เผ็ดเลย เข้ากันกับบรรดาผักทั้งหลายได้ดี

สรุปรสชาติ เส้นเหมาะกับแบบนํ้าแบบนี้มากกว่า เท่าที่ชิมเหมาะสำหรับสายมังมากกกก รสไม่จัด ไม่เผ็ดด้วย แถมเหมาะกับคนไม่ทานเผ็ดด้วยนะ ในจุดนี้ให้ 8/10 คะแนน ที่หักไปเพราะเราชอบแบบเผ็ดๆของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลีมากกว่าง่ะ


-----------




ป้ายกำกับ: