Burger King สาขาแรกของฝั่งธน ที่ The Bright พระราม2

ใครที่ผ่านไปผ่านมาย่านพระราม2 จะพบว่ามีห้างสรรพสินค้า หรือ commulity mall แห่งหนึ่งกำลังสร้าง เลย health land ไปนิดนึง ติดกับ Teddy car ถึงก่อนซอยอนามัยงามเจริญ นั่นคือ The Bright นั่นเอง เป็น lifestyle mall แห่งใหม่ จุดเด่น ตือมีร้านอาหารจากฝั่งพระนครมาเปิดที่นี่ และบางร้านเปิดเป็นสาขาแรกของฝั่งธนด้วยหล่ะ เช่น ฟู้ดแลนด์ คะ (พระราม2 เค้าเจริญมากขึ้นมากแล้วนะจ๊ะ) และมี soft opening 15 ธันวาคมนี้ บริหารงานโดย บริษัทหลอดไฟฟ้าแลมป์ตันคะ

        

ในตอนนี้มีเปิดบริการ 2 ร้าน คือ burger king และ starbuck ในวันนี้จะพูดถึง burger king เป็นหลัก เพราะเป็นสาขาแรกในฝั่งธน ซึ่งสาขาที่ใกล้ฝั่งธนคือ ถนนข้าวสารคะ -*- และก็ได้ใบปลิวของเบอร์เกอร์คิงมาแจกที่บ้านด้วยจ้า

        

The Bright พระราม2 นี่มาสะดวกมากๆเลย ใกล้บ้านเรามากๆแบบเดินไปได้เลย (แต่แดดร้อนนะ เปรี้ยงเลยจ้า) มีที่จอดรถด้านหน้า มีรถมาจอดทานเยอะอยู่ ซึ่งห้างนี้มีสองตึก ซึ่ง burger king อยู่ตึกหน้า ด้านหน้า และติดกับ starbuck ด้วย

        

        

บางทีเราก็แอบเห็นสตาร์บัคมีชั้นสองด้วยนะ (ไม่มีรูปในร้านเพราะไม่ได้เข้ามาอุดหนุน)

บรรยากาศร้านเหมือนกันทุกสาขาแหละ สาขานี้มีรับออร์เดอร์ฝั่งนึง ฝั่งนึงรับของ พนักงานบริการดี บางอย่างหมด เช่น พายแอปเปิ้ล บางอย่างทอดไม่ทัน เช่น พายเผือก ก็บอกหมด มีขอโทษขอโพยเล็กๆ และบริการรวดเร็วมาก ขนาดเราสั่งหลายอย่างเลยนะ สัก 2-3 นาที ได้แล้ว เราซื้อพายเชอร์รี่ 2 เบอร์เกอร์ไก่ 2 เฟรนฟรายกลาง 1 สิริรวม 195 บาทคะ (ในใจคิดว่าจ่ายแพงกว่านี้ซะอีก ดีที่มีโปร)

        

 รีวิวอาหารกัน

- เฟรนฟราย ตอนนี้ลดครึ่งราคา ราคาปกติอยู่ที่ 69 79 89 บาท ซึ่งเราเลือกขนาดกลาง เนื้อแน่นกว่าร้านอื่นๆ และกรอบด้านนอก เค็มนิดๆ

- พายเชอร์รี่ ผู้เหลือรอด รสชาติไส้หวานอมเปรี้ยว มีเนื้อเชอร์รี่ให้เคี้ยว ด้านนอกกรอบ นี่ขนาดซื้อกลับบ้านนะ

- chic'n crisp ตอนนี้โปร 59 บาท จาก 99 บาท มีผักกาดแก้วสดกรอบ ทานคู่กับไก่ทอด ซึ่งเป็นไก่ผสมแป้งทอด คล้ายๆนัตเกตหน่อยๆอ่ะ ขนมปังเนื้อนุ่ม ถึงบ้านมันไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่

ตอนนี้มีโปร affogato ไอศครีมราดกาแฟก้นแก้ว ราคา 19 บาท จาก 49 บาท ถึง 22 พ.ย. 58 คะ

สำหรับแฟนเบอร์เกอร์คิงฝั่งธนห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงคะ

[review app] Primer แอปสอนการตลาดสุดน่ารักของกูเกิ้ล

วันนี้จะมาแนะนำแอป Primer แอปสอนการตลาดจากกูเกิ้ล ซึ่งเราเจอโดยบังเอิญเลย ด้วยหน้าตาที่สวยงามน่าใช้ ได้ฝึกภาษาอังกฤษ จึงจิ้มโหลดได้อย่างไม่ยากเย็น มีทั้ง iOS รองรับ iOS7 ขึ้นไป และ android รองรับ android 4.0 ขึ้นไป แถมเขามีหน้าเว็บด้วยนะ 

  

เข้ามาหน้าแอปจะพบกับบทเรียนแนะนำ มีทั้งหมด 4 หมวด คือ advertising, content, measurement และ strategy มีทั้งของ primer เองและอาจารย์ท่านอื่นๆ นอกจากจะได้ความรู้ ไม่ว่าจะเป็นการตลาดแล้ว ไม่สิ จริงๆเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดนั่นแหละ อย่างในส่วนของ featured lessons ของเราจะมีบทเรียนต่อไปนี้ 

• Identify customers' needs to create better solution (strategy) จะสอนเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า แยก need กับ want และมีการสร้างความรู้ความเข้าใจของผลิตภัณฑ์ของเรา
• Test your content before you invest (content) เรื่องการทำ content ให้เป็นที่ดึงดูดต่อผู้อ่าน 
• Design your mobile site to be customer-friendly (strategy) การทำหน้าเว็บที่แสดงผลได้ดีบนมือถือ มีการทอสอบแนวคิดของเราว่าตรงกับ mobile friendly ไหม
• Create a high quality, high ranking search ad (advertising) การทำ adword ที่ได้ impact มากๆ โดยอาจจะไม่ต้องใช้เงินมาก มีการช่วยคิด search ads ให้เราด้วย
• Trach marketing outcomes with digital metrics (measurement) บอกถึง micro และ macro outcome อย่าง youtube เป็น micro outcome ที่สามารถดูยอดวิว และจำนวนคนรับสมาชิกได้

นอกจากจะมี content ให้อ่านแล้ว เรายังสามารถ pin หน้าที่เราสนใจไว้ด้วย รวมไปถึงการทำแบบฝึกหัด แบบทดสอบ เสริมความเข้าใจเราด้วย

เมื่อเราอ่านบทเรียนจบบทแล้ว เราสามารถย้อนกลับไปดูที่เรา pin ได้ รวมไปถึงแบบฝึกหัดทั้งหลายที่เราทำทิ้งไว้ด้วย บางทีเราก็ได้โบนัสมาด้วย คือเนื้อหาเพิ่มเติมจากที่เราเรียนนี่แหละ

เมื่อเราเรียนเสร็จแ้ว สามารถแชร์ให้เพื่อนมาเรียนกับเราได้ด้วยนะเออ แต่จะเป็นลิ้งที่เปิดได้เฉพาะมือถือเท่านั้นนะ

บทเรียนเขาอัพกันทุกอาทิตย์เลย เราสามารถเลือกบทเรียนอื่นๆนอกจาก feature lessons โดยกดที่เมนู all lessons แล้วดูหัวข้อทั้ง 4 ชอบอันไหน จิ้มวงกลมด้านขวาได้เลย อันที่มีแล้วจะแสดงเครื่องหมายถูกขึ้นมา ส่วนเนื้อหาที่เลือกจะอยู่ใน your queue คะ

ข้อดีของแอปนี้ คือ มีบทเรียนมากมายให้เราเรียน สามารถเรียนที่ไหนก็ได้ ระหว่างนั่งรถบนไฟฟ้า หรือยืนอ่านบนรถเมล์ในเวลารถติดได้ แถมยังเป็น offline ด้วยหล่ะ เนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษที่อ่านแล้วไม่ต้องแปล เข้าใจได้ง่าย ภาพประกอบก็สวยงาม ดีไซน์สะอาดตา ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ใช้ Primer ในการเรียนการตลาดเพิ่มเติม

สำหรับตอนหน้าจะเป็นอะไรสามารถติดตามอ่านได้คะ :)

กินโค้กฟรีที่งาน The Coca-Cola Bottle Art Tour #emquartier

รีวิวงานโค้กขวดแก้ว ที่ emquartier ชั้น M ซึ่งจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน ท่านใดที่เห็นบล็อกนี้ แสดงว่า เขาเก็บของกับบ้านแล้วจ้า เข้ามาจะมีบัตรแจก แล้วพี่สตาฟฉีกหางบัตรเพื่อให้เราเข้างานเนอะ เข้ากันเป็นรอบๆ รอบเรามีชาวต่างชาติมาด้วยหล่ะจ้า ซึ่งจะมีพี่สตาฟสองคนชุดแรกเปิดประตูพาเราเข้าไป

ภายในงาน มี 3 โซน

1. เข้ามาตอนแรกจะมีกลิ่นโค้กลอยมาเลยจ้า ด้านซ้ายเป็นขวดแก้วเรียงกัน หมุนได้ ด้านขวาเป็นจอฟองฟู่ มี xbox 360 เป็นเซ็นเซอร์ ถ่ายรูปได้ตามสะดวกโยธิน ที่สำคัญ ห้ามเปิดแฟลซตลอดงานนะ

2. เราจะเจอสตาฟอีกชุดสองคนเช่นกัน หยิบโค้กขวดแก้วได้ทั้งสองฝั่ง พร้อมเปิดขวดด้านล่าง มีพรีเซนเทชั่นประวัติของโค้กอย่างย่อๆ เราจะได้โค้กคนะขวด ที่สำคัญทานได้เลยเนอะ เรื่องถ่ายรูปอย่าไปกลัว ถึงห้องมืด แต่ถ่ายได้ชัดมากเลย

3. ที่มาของขวดโค้ก งานศิลปะ งานโปรโมต 

ขวดโค้กตอนแรกเป็นขวดธรรมดา ไม่มีอะไรเลย เรียบๆ ปรากฎว่า โดนก็อป เราออกแบบขวกใหม่ พอดีมีดีไซน์เนอร์คนนึง คิดว่าโค้กมาจากผลโคล่า เลยมาเป็นขวดทรงโคล่าในปัจจุบัน

มีศิลปินระดับโลกมากมายช่วยกันขายโค้ก

ผลงานการวาดขวดโค้กระดับเทพ

โค้กเป็นคนสร้างซานต้าให้มีตัวตนแบบนี้แหละ

ศิลปะขนขวดโค้กยักษ์

ถึงขวดโค้กจะแตกเป็นเสี่ยง เมื่อดูแค่ชิ้นเดียวก็รู้ว่าเป็นขวดอะไร มีช่องให้เรามองประกอบร่างและชักภาพด้วยหล่ะ

ออกแบบขวดโค้กของท่านด้วยตัวเอง ขอบอกว่าตัวโปรแกรมมันหน่วง มันช้ามาก ใช้งานไม่ง่ายเลย ถ้าพี่ประจำซุ้มไม่บอก ไม่รู้เลย ผิดหลัก UX นะเออ

โซนสุดท้าย คือชักภาพคู่กับโค้กเป็นที่ระทึก และเราได้รูปที่ถ่ายกลับบ้านไปด้วย

พอออกมาจากนอกห้องนิทรรศการ จะมีโค้กแคนลายลิมิตเต๊ด อีดิชั่น วางอยู่ พร้อมทั้งแคมเปญของโค้ก แชร์โค้ก แชร์ความรู้สึก มีทุกลาย ทุกขนาดเลย

พอออกจากงาน เขาให้เราคืนขวดแก้วเพื่อรีไซเคิล ทานไม่หมดไม่เป็นไร และเราก็ได้เข็มกัดที่ระลึกกับบ้าน

สำหรับงานนี้ ที่ชอบคือฟรี เข้าฟรี โค้กฟรี ถ่ายรูปพร้อมปริ๊นฟรี ได้เห็นผลงานระดับโลก ได้ทำความรู้จักกับโค้กแสนอร่อยมากขึ้นด้วยหล่ะ :)

เดินชมงานวิจัย ที่นิทรรศการ Talent Mobility งานวิจัยกึ่งสำเร็จรูป ที่ TCDC

ในตอนนี้มีงานวิจัยเยอะแยะมากมาย ทั้งด้านเทคโนโลยี การเกษตร การแพทย์ วัสดุ และอีกมากมาย ซึ่งปัญหาของงานวิจัย คือ การนำไปต่อยอดออกสู่ตลาด นิทรรศการงานวิจัยสำเร็จรูป ถือเป็นนิทรรศการพบผู้สนใจ และนักลงทุนเลยก็ว่าได้ เป็นการแสดงผลงานวิจัยต่างๆถึง 50 ชิ้น โดยแบ่งเป็น 5 ประเภท คือ บรรจุภัณฑ์ วัสดุ สิ่งทอ เครื่องมือ/อุปกรณ์ และ เทคโนโลยี/ดิจิทัล งานนี้ไม่มีคู่มือชมนิทรรศการ มีแต่แฟ้มกระดาษ เอามาทำไมน๊าาาาาา น้องแม็คก็สงสัยนะ

เมื่อเข้ามาภายในนิทรรศการ เป็นห้องสีดำโล่งๆ มีไฟส่องสว่าง งานวิจัยส่วนใหญ่เป็นพวกสิ่งที่จับต้องได้ เช่น กาวติดไม้ไม่ก่อมะเร็ง กระเบื้องเซรามิกจากเปลือกปู ชุดเสริมความแม่นยำ พลาสมาเพิ่มคุณสมบัติผ้าก็อซ สูตรพลาสติกชีวภาพ เป็นต้น เมื่อกี้น้องแม็คสงสัยว่าเอาแฟ้มมาทำไม ตรงบูธที่แสดงผลงาน จะมีกระดาษเสียบๆไว้อยู่ เป็นรายละเอียดของงานวิจัยคะ มีชื่อผู้วิจัย สังกัด ระยะเวลาดำเนินโครงการ ถ้าผู้ประกอบการท่านใดสนใจผลงานนั้นๆ ปิ้งไอเดียอยากทำเป็นธุรกิจ หย่อนนามบัตรของท่านที่ช่องข้างๆ เพื่อให้นักวิจัยติดต่อกลับไป

ถุงยืดอายุผักผลไม้ อันนี้แอบนึกถึงพี่ญาญ่า ณ MTEC เพราะหลักการทำงานเหมือนกัน ยืดอายุผักผลไม้ในถุงเหมือนกัน 

การชะลอการสุกด้วยฟองจิ๋ว อันนี้คล้ายๆถุงยืดอายุผักผลไม้ นำสาร 1-MCP มาละลายนํ้า เพื่อใช้จุ่มหรือฉีดพ่นผักผลไม้ เพื่อชะลอการสุกของผักผลไม้ให้สุกช้าลง

ชุดย้ายต้นไม้แบบเบาแรง อันนี้ขนต้นไม้ใหญ่ๆเลย ทำให้ลดแรงคน รากไม่ขาด รวดเร็ว

วัสดุเทอร์โมอิเลคทริค ตัวนี้สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าจากความร้อนได้ ตรงหินอ่อนสามารถเอามือดราไปแตะ เพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ แต่หินอ่อนเย็นแอร์มานาน แถมเราถูมือแล้วก็ไม่ร้อนเท่าที่ควร เลยไม่เห็นเลยว่าทำงานอย่างไร

ชิ้นงานนี้ น่าสนใจทีเดียว เป็นชุดทำผ้าบาติกแบบ DIY ซึ่งแตกต่างจากทั่วไปตรงที่ใช้หัวบอนมาเป็นตัวกั้นสี สามารถละลายได้ในนํ้าเย็น เด็กก็สามารถทำผ้าบาติกได้เอง

ชิ้นงานที่ชอบที่สุด ได้แก่ จำลองเฟอร์นิเจอร์สามมิติ เป็นชิ้นงานเดียวในหมวดเทคโนโลยี โดยการทำงานจะแสดงผลสามมิติบนแอพพลิเคชั่น เพื่อจำลองการแต่งบ้าน ซึ่งสแกนเฟอร์นิเจอร์สามมิติ บวกกับการใช้เทคโนโลยีภาพเสมือนจริง

ข้อมูลเพิ่มเติม ดูที่นี่ งานนี้จัดตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ยาวไปถึง 13 ธันวาคม ที่ห้องแกลอรี่ 2 ของ TCDC

ใครสนใจนวัตกรรมการออกแบบสามารถเข้าไปดูได้นะคะ